น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ดำเนินการพัฒนาระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยสามารถใช้ข้อมูลนิติบุคคลจากระบบ e-GP ได้ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระแก่ประชาชน ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งไม่เรียกสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้จากประชาชน ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าว เป็นไปด้วยความถูกต้องตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 14 และข้อ 15 เรื่องการตรวจสอบผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน และการกำหนดให้ยื่นเอกสารแสดงคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอเพื่อตรวจสอบผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน
“คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (คณะกรรมการวินิจฉัย) จึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติ โดยกำหนดให้ผู้ยื่นข้อเสนอสามารถใช้หลักฐานจากการเชื่อมโยงข้อมูลจากระบบ e-GP ได้แก่ ข้อมูลนิติบุคคลตามหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ข้อมูลรายละเอียดวัตถุที่ประสงค์ ข้อมูลหนังสือบริคณห์สนธิ และข้อมูลบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นตามสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยไม่ต้องรับรองสำเนาถูกต้องในขั้นตอนการยื่นข้อเสนอ และหน่วยงานของรัฐสามารถใช้ข้อมูลข้างต้นจากระบบ e-GP ในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละรายว่าเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันหรือไม่อีกด้วย ซึ่งแนวทางปฏิบัติดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป ตามหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 114 ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลข 0-2270-6400 กด 3 ในวัน เวลาราชการ” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว