จับตาอสังหาฯ ปรับพื้นที่ส่วนกลางเพิ่มจุดชาร์จไฟฟ้ารับเทนด์ใช้รถยนต์ EV หลัง ครม.เคาะแพกเกจรถยนต์ไฟฟ้า กระตุ้นการใช้รถ EV ในไทย คาดคอนโดใหม่ๆ เพิ่มจุดชาร์จใช้เป็นจุดขายดูดผู้บริโภคมีแผนซื้อรถยนต์ EV อนันดาฯ เผยเตรียมที่จอดรถและจุดบริการ EV Charger ทุกโครงการ
นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนคอนซัลแทนซี่ จำกัด กล่าวว่า จากกรณี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 ก.พ.65 ซึ่งมีการพิจารณาแพกเกจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อกระตุ้นการใช้รถ VE ในไทย 3 ประเภท ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถกระบะ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า 3 กลุ่ม โดยรัฐจะให้เงินอุดหนุนรถยนต์และรถกระบะคันละ 70,000-150,000 บาทต่อคัน และรถจักรยานยนต์ 18,000 บาทต่อคัน คาดว่าจะส่งผลต่อรูปแบบการพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกในการโครงการที่อยู่อาศัยในอนาคต โดยเฉพาะในโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งสนใจจะซื้อรถ EV เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ เทรนดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นจะส่งผลให้ในโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ๆ มีการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ EV ซึ่งจะทำให้สถานนีชาร์จไฟรถยนต์ EV กลายเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่มีแผนจะซื้อรถยนต์ EV เพื่อใช้เดินทางในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม เทรนด์การใช้รถยนต์ EV นั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความพร้อมด้านสถานีชาร์จไฟ และจุดบริการชาร์จไฟรถยนต์ EV นั้นยังมีจำนวนจำกัด ไม่เหมาะกับการขับขีในระยะทางไกลๆ โดยเฉพาะการเดินทางไปต่างจังหวัด ซึ่งจะมีปัญหาในเรื่องของจุดชาร์จไฟ
สำหรับนโยบายการเพื่อกระตุ้นการใช้รถ EV ในไทยนั้น ในระยะกลาง และระยะยาวนั้นจะส่งผลให้โครงการใหม่ๆ โครงการที่กำลังก่อสร้าง หรืออยู่ในแผนจะจะก่อสร้างนั้นมีการปรับพื้นที่เพิ่มจุดชาร์จไฟรถยนต์ EV เพิ่มมากขึ้น โดยในบางโครงการที่ไม่มีแผนจะทำจุดชาร์จรถยนต์ EV ให้ลูกค้าจะมีการปรับผังและก่อสร้างจุดชาร์จไว้รองรับความต้องการลูกค้ามากขึ้น ส่วนโครงการเก่าๆ ที่มีการจัดตั้งนิติบุคคล และมีคณะกรรมการหมู่บ้านแล้วนั้นจะมีปัญหามากกว่าโครงการใหม่ๆ เพราะการติดตั้งจุดชาร์จไฟรถยนต์ EV นั้น จำเป็นต้องใช้งบของหมูบ้านในการก่อสร้าง ซึ่งจะมีลูกค้าที่รถยนต์ระบบน้ำมันจะไม่เห็นด้วยเพราะไม่ได้ใช้ประโยชน์จาการใช้เงินส่วนกลางของหมู่บ้าน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เทรนด์การใช้รถยนต์ EV ที่ขยายตัวมากขึ้นทำให้ภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน โรงแรม และอาคารออฟฟิศหลายแห่งเริ่มมีการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ EV เพื่อให้บริการผู้บริโภคและลูกค้าที่ใช้บริการห้างสรรพสินค้า โรงแรม ออฟฟิศเพิ่มมากขึ้น ขณะที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายมีนโยบายการติดตั้งจุดชาร์จไฟรถยนต์ EV ในโครงการให้เห็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในโครงการคอนโดมิเนียม โดยบริษัทที่มีนโยบายชัดเจนในการสนับสนุนการติดตั้งจุดชาร์จไฟรถยนต์ VE ในโครงการที่อยู่อาศัย คือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ บมจ.แสนสิริ ได้เข้าร่วมเป็น Strategic Partner กับชาร์จ แมเนจเม้นท์ (SHARGE) ผู้นำด้านการสร้าง EV Charging Ecosystem เพื่อขยายโซลูชันในการอำนวยความสะดวกลูกบ้านแสนสิริในการใช้รถพลังงานไฟฟ้าและการเข้าถึงสถานีชาร์จ ด้วยการติดตั้ง EV Charging Station ในโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริ นำร่องโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 95 หัวชาร์จ (50 เครื่อง) ใน 28 โครงการ และโดยกำหนดเป้าหมายขยายการติดตั้ง EV Charging Station ให้ครอบคลุมโครงการแนวสูงที่เปิดใหม่ และโครงการแนวราบในระดับเซกเมนต์ B ขึ้นไปทุกโครงการ ภายใต้งบลงทุน 65 ล้านบาท หรือการติดตั้งเครื่องชาร์จ EV ราว 1,500 เครื่อง ภายใน 3 ปี
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อนันดา” ตระหนักและสนับสนุนถึงแนวโน้มของการการรักษาสิ่งแวดล้อมของโลก การส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการที่อุตสาหกรรมรถยนต์เปลี่ยนจากรถยนต์เชื้อเพลิงสันดาปภายในมาสู่พลังงานไฟฟ้า ตลอดจน แนวโน้มของการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้นของทั้งโลก รวมถึงในประเทศไทยที่เห็นได้จากการเติบโตของการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2564 ขยายตัวมากกว่า 40% ทั้งนี้ อนันดาในฐานะผู้นำของคอนโดมิเนียมในเมือง ได้กำหนดการออกแบบโครงการเพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ EV คือ 1.การให้ทุกโครงการต้องกำหนดที่จอดรถและจุดบริการ EV Charger สำหรับผู้พักอาศัยในโครงการ เป็น Design Standard และ Checklist ของการออกแบบทุกโครงการตั้งแต่ปี 2561 ส่วนที่ 2.คือโครงการที่ออกแบบในปี 2560-2561 และได้มีการโอนในปี 2562-2563 มีการเตรียมที่จอดรถและจุดบริการ EV Charger ตั้งแต่ขึ้นตอนการออกแบบ ดำเนินการก่อสร้างและส่งมอบให้ผู้พักอาศัยได้ใช้งานพร้อมการเปิดใช้โครงการ
3.สำหรับโครงการใหม่ทั้งแนวราบและแนวสูงที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2565 นี้ นอกจากการเตรียมที่จอดรถและจุดบริการ EV Charger ให้ตามจำนวนที่เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละโครงการแล้ว ยังได้มีการเตรียมส่วนของงานระบบ และ infrastructure ที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้ง EV Charger เพิ่มเติมได้อีกในอนาคตด้วย เพราะเราตระหนักถึงการเพิ่มขึ้นของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้นี้ที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างแน่นอน 4.ในปัจจุบันทางอนันดาได้มีการทำงานร่วมกับ Supplier Partner เพิ่มเติม ในการศึกษาและพัฒนาการรองรับการใช้ รถยนต์ไฟฟ้าในทุกโครงการของอนันดาที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เช่น การเตรียม EV Charger ที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่สูงขึ้น การร่วมมือกันทางธุรกิจในการบริหารหรือให้บริการการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การพัฒนาระบบที่จอดรถอัตโนมัติให้สามารถรองรับการใช้งานการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ รวมถึงการกระตุ้น ส่งเสริม และรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้ครบถ้วนทุกมิติ