บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยผันผวนจากแรงกดดันความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน บวกตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งแรงต่อเนื่อง จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,675-1,710 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนใน 7 หุ้นเด่นได้ประโยชน์ราคาน้ำมันแพง ได้แก่ PTTEP-PTT-TOP-PTTGC และหุ้นที่ได้อานิสงส์ราคายางพุ่ง ได้แก่ NER-TRUBB-STA
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นว่ามีโอกาสแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway Up โดยยังมีแรงกดดันจากความกังวลว่าสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ใกล้จะเปิดศึกโจมตียูเครน หลังจากที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ เตือนว่ารัสเซียอาจจะเริ่มบุกยูเครนก่อนจีนปิดฉากกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในวันที่ 20 ก.พ.นี้ ซึ่งอาจนำไปสู่การคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก และผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้ชาวอเมริกันรีบเดินทางออกจากยูเครน
อีกทั้งการที่สหรัฐฯ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีเป็นตัวเร่งให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) พิจารณาขึ้นดอกเบี้ย เห็นได้จาก FedWatch Tool บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 88% ที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน มี.ค. จากเดิมที่เคยให้น้ำหนักเพียง 14% และนักลงทุนให้น้ำหนัก 95% ที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1.00% ภายในเดือน มิ.ย. และธนาคารกลางหลายประเทศทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ล่าสุด ธนาคารกลางรัสเซียประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1% สู่ระดับ 9.50% สูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค.2560 สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปีที่ระดับ 8.1% สูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางที่ระดับ 4%
ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ยังปรับตัวเร่งขึ้นต่อเนื่อง ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่ฉีดวัคซีน แต่ยังมีข่าวดีอยู่บ้างจากสถิติการฉีดวัคซีนที่มีความคืบหน้า ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยไทยฉีดวัคซีนแล้ว 120,009,906 โดส ผู้ได้รับวัคซีนเข็ม 1 และ 2 คิดเป็น 79.8% และ 74.4% ตามลำดับ และเด็กกลุ่มอายุ 5-17 ปีเริ่มได้รับวัคซีนที่มี 5 สูตรที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี 1,675-1,710 จุด
ส่วนปัจจัยยังคงต้องจับตาต่อเนื่อง เช่น 15 ก.พ. ญี่ปุ่นเปิดเผยตัวเลข GDP งวด 4Q64 และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ธ.ค. อียูรายงานตัวเลข GDP งวด 4Q64 (ประมาณการครั้งที่ 2) ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือน ก.พ. สหรัฐฯ รายงานดัชนีภาคการผลิตเดือน ก.พ. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ม.ค. 16 ก.พ. จีนเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ม.ค.ซึ่งบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ สหรัฐฯ เปิดเผยยอดค้าปลีกเดือน ม.ค. ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือน ม.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ม.ค. สต๊อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือน ธ.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ก.พ. สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ และ FOMC เปิดเผยรายงานการประชุม 17 ก.พ. สหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ การเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน ม.ค. และดัชนีการผลิตเดือน ก.พ. 18 ก.พ. ญี่ปุ่นเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือน ม.ค. สหรัฐฯ เปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือน ม.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน ม.ค. 17-18 ก.พ. สภาผู้แทนราษฎรเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์ลงทุนในกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น PTTEP, PTT, TOP และ PTTGC รวมทั้งหุ้นที่ได้อานิสงส์จากราคายางที่พุ่งแรงในช่วงไตรมาสแรกหลังความต้องการในตลาดโลก โดยเฉพาะความต้องการในกลุ่มอุตสาหกรรมถุงมือยาง และยานยนต์ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ NER, TRUBB และ STA
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สัปดาห์นี้ราคาทองคำจะแกว่งตัวผันผวน เนื่องจากมีกำหนดประกาศตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตและยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะสูงกว่าครั้งก่อนหน้า เนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังคงทรงตัวระดับสูงต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมต้นทุนการผลิตยังคงเร่งตัวขึ้น ขณะที่ช่วงปลายสัปดาห์ประกาศรายงานการประชุม FOMC จากครั้งก่อนและจับตาคำแถลงของประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์อย่างนาย เจมส์ บลูลาร์ด ที่หนุนเฟดให้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 1.0% ภายในกรกฎาคมนี้ อาจส่งผลให้ Bond Yield ทรงตัวระดับ 2.0% ต่อไป ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำอาจผันผวนในกรอบ 1,830-1,880$/oz หากย่อตัวไม่หลุดแนวรับให้ทยอยเข้าซื้อสะสม