ตลาดหุ้นเอเชียเปิดในแดนบวกตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกกว่า 300 จุดในวันพุธ (9 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 2% โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีชะลอตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,818.10 จุด เพิ่มขึ้น 238.23 จุด หรือ +0.86%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,050.59 จุด เพิ่มขึ้น 220.6 จุด หรือ +0.89% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,481.91 จุด เพิ่มขึ้น 1.96 จุด หรือ +0.06%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ สู่ระดับ 1.925% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.229%
ทั้งนี้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นจะทำให้บริษัทต่างๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
ทิม กริสคีย์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Ingalls & Snyder กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้วตลาดพันธบัตรเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ชะลอตัวลงเมื่อคืนนี้ถือเป็นปัจจัยบวกต่อบรรยากาศการซื้อขายโดยรวมในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นเติบโต (Growth Stocks) เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือน ม.ค.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI จะพุ่งขึ้น 7.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2525
ทางด้านนักลงทุนในภูมิภาคยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ซึ่งจะประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันนี้ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการซึ่งมีกำหนดเปิดเผยวันนี้ ได้แก่ อัตราว่างงานและดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ธ.ค. ของเกาหลีใต้ รวมถึงยอดขายรถ ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และยอดปล่อยกู้ล็อตใหม่สกุลเงินหยวนเดือน ม.ค. ของจีน