โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งพักฐาน กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมีกดดันหลังราคาน้ำมันดิ่ง ส่วนปัจจัยที่จะเข้ามาหนุนจะเป็นหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากอัตราผลตอบแทน Bond Yield ดีดตัวขึ้นทะลุ 1.96% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.62 ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อเงินทุนต่างชาติไหลเข้า
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งพักฐาน หลังปรับตัวขึ้นไปหลายวันติดต่อกันรวมกว่า 70 จุด จากจุดต่ำสุด โดยวันนี้จะมีปัจจัยกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเมื่อวานนี้ปิดร่วงลงกว่า 2% จากความกังวลการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์มหาอำนาจกับอิหร่าน อาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก
ส่วนปัจจัยที่จะเข้ามาหนุนตลาดจะเป็นหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (Bond Yield) ดีดตัวขึ้นทะลุ 1.96% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.62 ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อเงินทุนต่างชาติไหลเข้า (Fund Flow)
ให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,670-1,675 จุด และแนวต้าน 1,685-1,700 จุด แนะติดตามการประชุมคณะกรรมการ นโยบายการเงิน (กนง.) โดย บล.ทิสโก้ คาดว่า กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% รวมถึงติดตาม MSCI rebalance ในวันนี้