บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด (KB J Capital Co.,Ltd.) เผยผลการดำเนินงาน 1 ปี ปล่อยสินเชื่อเพิ่มจากเดิมถึง 2 เท่าจากการนำระบบ HQ Global Capital ของเกาหลีมาใช้ พร้อมเปิดศักราชใหม่ปี 2565 รุกออกบัตรเงินสดเจาะลูกค้าใหม่ อนุมัติได้ทันที ดอกเบี้ย 0% ในเดือนแรก หวังเพิ่มสินเชื่อใหม่อีก 2 เท่า และตั้งเป้าขึ้นสู่ท็อปเทน Non Bank ไทยใน 5 ปี
นายวอนซอค จ็อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเคบี เจ แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จการดำเนินธุรกิจสินเชื่อบุคคลในไทยตั้งแต่ปีแรก โดยปี 2564 มีปริมาณสินเชื่อที่อนุมัติเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ถึง 2 เท่าตัว เนื่องมาจากการนำระบบ new credit scoring system หรือระบบไอทีระดับสูงสำหรับสถาบันการเงินที่เรียกว่าระบบ HQ Global Capital ของเกาหลีที่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและยืดหยุ่นมาใช้ เมื่อผสมผสานกับความเชี่ยวชาญด้านผู้บริโภคที่มีความหลากหลายของกลุ่มเจมาร์ททำให้การดำเนินการปล่อยสินเชื่อเป็นไปอย่างตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น
“ปีที่แล้วเป็นช่วงเวลาของการสร้างรากฐาน หลังจากประกาศร่วมทุนในเดือนมกราคม 2564 และภายใต้แบรนด์ใหม่เราได้เริ่มดำเนินการในการวางโครงสร้างธุรกิจ พัฒนาระบบและแพลตฟอร์ม ทำให้บริษัทเหมาะกับมาตรฐานโลก ปรับเปลี่ยนแนวทางด้านการจัดการความเสี่ยงและด้านอื่นๆ ซึ่งบริษัทฯ ยังพัฒนาทุกมิติอย่างไม่หยุดนิ่งเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดตามเป้าหมายที่วางไว้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า”
อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 จากภาวะที่เศรษฐกิจยังไม่ค่อยมีสัญญาณฟื้นตัวมากนัก และการระบาดของโรคโควิด-19 ยังมีอยู่ บริษัทฯ มีนโยบายเน้นการรักษาเสถียรภาพและการปฏิรูปบริษัทฯ สู่แบรนด์ใหม่ พร้อมกับการขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้ความร่วมมือและการวางพื้นฐานที่ดีขึ้น เพื่อการเจาะสินเชื่อบุคคลใหม่โดยตั้งเป้าเพิ่มสินเชื่อใหม่อีก 2 เท่าในปีนี้ และเพิ่มกำไรสุทธิและการเติบโตของสินทรัพย์มากกว่า 60% จากสิ้นปี 2564
สำหรับสินเชื่อที่บริษัทฯ จะให้บริการมุ่งเน้น 3 กลุ่มหลัก คือ สินเชื่อหมุนเวียน สินเชื่อระยะยาว สินเชื่อมือถือและอื่นๆ ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลบริษัทจะมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้น้อยให้มากขึ้น และให้ความสนใจที่จะขยายฐานสู่กลุ่มลูกค้ารายได้ปานกลางและรายได้สูงที่มีความต้องการสินเชื่อเช่นกัน
นายวอนซอค จ็อง กล่าวว่า แม้ว่าภายใน 5 ปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าสินเชื่อโดยรวมมีแนวโน้มชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ แต่สินเชื่อที่มีหลักประกันยังคงเติบโตเฉลี่ย 3-5% ต่อปี และด้วยความก้าวหน้าของระบบดิจิทัลและสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลที่ได้นำระบบ new credit scoring และการที่ตลาดดิจิทัลในไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องคาดว่าจะทำให้ตลาดสินเชื่อยังเติบโตต่อไปได้ ขณะที่การบริหารความเสี่ยง ยังสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความสมดุลกับการรุกปล่อยสินเชื่อ โดยได้ใช้มาตรการทางการเงินพิเศษเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้ลูกหนี้ชำระหนี้ 1% จากค่างวดที่ต้องจ่าย และมีการติดตามจัดเก็บหนี้อย่างรัดกุม
ส่วนเป้าหมายในระยะยาว บริษัทฯ จะเป็น 1 ใน 10 อันดับ Non Bank ในประเทศไทย ภายใน 5 ปี และตั้งเป้าหมายจะเป็น 1 ใน 5 อันดับ Non Bank ในเมืองไทยในปี 2573 โดยไทยถือเป็นตลาด Non bank ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนและมีอัตราเติบโตที่มั่นคงจึงเป็นหนึ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับธุรกิจการเงินที่ดีที่สุดและมีโอกาสสูงในการเติบโตของธุรกิจบัตรเดบิต
อนึ่ง เคบี เจ แคปปิตอลเกิดจากการร่วมทุนระหว่าง KB Kookmin Card ยักษ์ใหญ่บัตรเครดิตเกาหลีใต้ที่เข้ามาร่วมทุนในบริษัทเจ ฟินเทคในกลุ่มบริษัทเจมาร์ท จำกัด (มหาชน) แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทเคบี เจ แคปปิตอล จำกัด เมื่อเดือนมกราคม 2564 และดำเนินธุรกิจสินเชื่อบุคคลในประเทศไทยผ่านกลุ่มเจมาร์ทจนถึงปัจจุบัน