xs
xsm
sm
md
lg

‘เอ็กซ์สปริง’ เปิดเกมรุกปี 65 โฟกัส 2 ธุรกิจหลัก หวังดันรายได้แตะ 1,000 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG ประกาศความสำเร็จในการดำเนินงานบริษัทปี 2564 พร้อมมุ่งสู่การเป็น “One-Stop Financial Solutions” พร้อมสร้างโอกาสการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น ด้วย 2 กลุ่มธุรกิจยุทธศาสตร์ ได้แก่ ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน (AM) และกลุ่มธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หลังได้รับ Digital Asset Brokerage and Dealer license เตรียมพัฒนาระบบเชื่อมต่อตลาดต่างประเทศผ่าน Coinbase ซึ่งเป็น Exchange ระดับโลก หวังครองมาร์เกตแชร์ของกลุ่มธุรกิจให้ได้ 1 ใน 3 ของตลาด คาดเป้ารายได้ปีนี้ของบริษัทโตแตะ 1,000 ล้านบาท

น.ส.วรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา สำหรับเอ็กซ์สปริงถือเป็นช่วงเเห่งการขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มช่องทางบริการใหม่ๆ รวมถึงเพิ่มผลิตภัณฑ์การเงินการลงทุนที่หลากหลาย ขณะเดียวกัน เน้นการลงทุนในเทคโนโลยี แพลตฟอร์มใหม่ๆ มีการปรับปรุงระบบการทำงาน เพื่อปูทางไปสู่การเป็น “One-Stop Financial Solutions” เต็มตัว ทั้งในประเทศไทย และเชื่อมต่อสู่การลงทุนระดับโลก

ขณะเดียวกัน จากปัจจุบันที่เอ็กซ์สปริงมีมากถึง 17 ใบอนุญาตในมือ ทำให้มีความพร้อมในการเดินหน้ารุกตลาดทุนไทยและทั่วโลก โดยในปี 2565 เอ็กซ์สปริงจะยังคงเดินหน้ารุกธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ผ่านการดำเนินงานของบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ซึ่งประสบความสำเร็จในการออก ICO ตัวแรกของไทยในปีที่ผ่านมา โดยบริษัทตั้งเป้าออก ICO สู่ตลาดไม่ต่ำกว่า 4-6 ตัว และเดินหน้าเป็นผู้ให้บริการทางการเงินและการลงทุนในระบบดิจิทัลแบบ One-Stop Service เจ้าแรกในไทย รองรับการเชื่อมต่อกับตลาดทุนโลก ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด 1 ใน 3 ผ่านการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และเสริมศักยภาพด้านการให้บริการนายหน้าซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีที่เชื่อม Global Liquidity เสริมสภาพคล่องการซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก ผ่าน Coinbase แพลตฟอร์มซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ในสหรัฐอเมริกา คาดว่าระบบจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมให้บริการได้ภายในไตรมาสแรกนี้

ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน (Asset Management) โดยเฉพาะในธุรกิจใหม่คือการเป็น “ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล” (Digital Asset Fund Manager) เอ็กซ์สปริงคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต.ได้ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถนำเสนอโอกาสการลงทุนในกองทุนรูปแบบอื่นๆ แก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไปภายในประเทศได้ในระยะเวลาอันใกล้ รวมถึงการเป็น “นายหน้าซื้อขาย ค้า และจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน” (LBDU) เพื่อเพิ่มทางเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนให้แก่ลูกค้าในไตรมาสแรก

นอกจากนี้ อีกหนึ่งกลุ่มธุกิจที่เอ็กซ์สปริงมองว่ามีศักยภาพเติบโตสูง คือ กลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) ซึ่งในปีนี้เอ็กซ์สปริงเตรียมประมูลสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มมากขึ้น มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยร่วมบริหารงานกับพันธมิตรอย่างบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ตอบรับกับแนวโน้มสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลที่มีทิศทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มธุรกิจ AMC ของเอ็กซ์สปริงมุ่งเน้นไปที่การบริหารกลุ่มสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่มีหลักประกัน เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโด ซึ่งกลุ่มธุรกิจนี้ถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ในการสร้างรายได้ของกลุ่มเอ็กซ์สปริงในอนาคตด้วย

และอีกหนึ่งธุรกิจที่เอ็กซ์สปริงมองเห็นโอกาสการลงทุน ได้แก่ Green Investment ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาที่ยั่งยืนของภาคธุรกิจและสังคม บริษัทฯ ยังคาดหวังประโยชน์ที่จะได้จากโอกาสการร่วมลงทุนกับยักษ์ใหญ่ในภูมิภาคอื่นๆ รวมไปถึงการแบ่งปันองค์ความรู้ โดยกำหนดสัดส่วนการลงทุนในด้านนี้ไว้ที่อัตราส่วน 10% โดยล่าสุดเอ็กซ์สปริง ร่วมลงทุนในบริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ผู้ให้บริการด้านการชาร์จรถ EV แบบครบวงจร และยังมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท คิง ออฟ เกมเมอร์ คลับ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกันประกอบธุรกิจเกี่ยวกับภาพยนตร์ และพัฒนาโมบายแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับสื่อบันเทิงในรูปแบบต่างๆ และดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการส่งเสริมการขายที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการลงนามในสัญญาร่วมทุนและจัดตั้งบริษัทร่วมทุน โดยเอ็กซ์สปริงมีสัดส่วนการถือหุ้น 61.5381%

สำหรับทิศทางการลงทุนในปีนี้ของเอ็กซ์สปริง เรายังคงมุ่งเน้นการแสวงหาการลงทุนและเปิดโอกาสในการลงทุนทุกประเภทที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต และด้วยการวางกลยุทธ์อย่างรัดกุม รองรับแพลตฟอร์มที่เราได้พัฒนาวางรากฐานของธุรกิจ ผนวกกับการดำเนินงานอย่างมืออาชีพด้วยวิสัยทัศน์ที่มองเห็นโอกาสของโลกการเงินแห่งอนาคต ทำให้บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้รวมในปี 2565 ได้เกินกว่า 1,000 ล้านบาท

“ปี 2565 มองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มฟื้นตัว กลุ่มนักลงทุนรายบุคคล รวมถึงนักลงทุนสถาบันเริ่มมองหาช่องทางการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น ดังนั้น ในปีนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญของเอ็กซ์สปริงที่จะเติบโตเพื่อก้าวสู่เป้าหมายตามแผนที่งานได้วางไว้ โดยโฟกัสที่ 2 ธุรกิจหลัก รวมถึงเพิ่มการลงทุนในกลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) ที่มีโอกาสเติบโตสูง ตลอดจนการลงทุนของบริษัทฯ ที่ได้มีการวางแผนเดินหน้าเต็มที่ในปีนี้เช่นกัน”
กำลังโหลดความคิดเห็น