SIRI - MAJOR-PTG เบรกตัวโก่งเปิดรับคริปโทฯ ซื้อสินค้า หลัง ก.ล.ต.-แบงก์ชาติ- คลัง สั่งห้ามไม่ให้ใช้ซื้อสินค้า แต่ยืนยันไม่กระทบธุรกิจบริษัท เหตุเป็นแค่ช่วงเริ่มต้น และทดลองใช้ สัดส่วนลูกค้ายังมีไม่มาก
SIRI ยกเลิกโครงการใช้คริปโทฯ ซื้อบ้าน หลังภาครัฐฯเบรก
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า หลังจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ กระทรวงการคลังหารือร่วมกัน โดยห้ามใช้ ดิจิทัลแอสเซ็ท หรือเงินดิจิทัลในการชำระสินค้าและบริการ ทำให้บริษัทต้องยกเลิกโครงการการใช้คริปโท เคอร์เรนซี่หรือเงินสกุลดิจิทัลสำหรับนำมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ไปก่อน เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นข้อห้ามทางกฎหมายไปแล้ว
" ผลกระทบดังกล่าวถือว่ามีแค่เล็กน้อย เพราะสัดส่วนในมูลค่าของการใช้คริปโทฯ ในการซื้อบ้านไม่เยอะถ้าเทียบมูลค่าบ้าน ซึ่งจ่ายด้วยคริปโทฯ ราว 10-20% ของราคาบ้าน ส่วนที่เหลือชำระเป็นเงินสด เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องของนวัตกรรมทางด้านการเงิน ซึ่งบริษัทต้องเรียนรู้ และอยู่กับมันบางเรื่องที่เป็นประโยชน์ก็ต้องเรียนรู้ไป แต่ก็เข้าใจรัฐบาลถ้าต้องควบคุม " นายอุทัย กล่าว
เขากล่าวว่า หลังจากรัฐบาลประกาศสั่งห้ามใช้สินทรัพย์ดิจิทัลชำระสินค้า ทำให้บริษัทจำเป็นต้องยกเลิกแผนนี้ไป ส่วนลูกบ้านที่จ่ายด้วยคริปโทฯ ไปแล้ว ก็ต้องรอดูว่ากฎหมายจะมีผลย้อนหลังหรือไม่ ถ้ากฎหมายออกมาชัดเจน ก็ต้องปฏิบัติตามที่ประกาศ
ก่อนหน้านี้ SIRI ได้ออกโครงการเปิดรับสกุลเงินดิจิทัล โดยใช้คริปโทฯ ซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริได้ทุกโครงการ พร้อมยังเปิดรับในการจ่ายค่าส่วนกลางโครงการได้ ด้วยการเปิดรับคริปโทถึง 4 สกุลเงินดิจิทัล ได้แก่ Bitcoin, Ethereum (ETH) , USDC และ USDT โดยเริ่มโครงการไปเมื่อเดือนก.ค.64 ที่ผ่านมา
MAJOR ยันไม่กระทบธุรกิจ แค่ทดลองใช้
ด้าน นายนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR กล่าวว่า บริษัทต้องหยุดแผนการใช้เงินดิจิทัลแลกตั๋วภาพยนตร์ไปก่อน เนื่องจาก พาร์ทเนอร์ 2 ราย คือ ซิปเม็กซ์ (ZIPMEX) และแรพิดซ์ (RAPIDZ) ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นตัวกลางเรื่องการชำระเงินว่ากฎหมายยังไม่ชัดเจน ต้องระมัดระวัง โดยขอรอดูนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ชัดเจนอีกครั้ง
ส่วนผลกระทบต่อธุรกิจและรายได้นั้น ยังถือว่าน้อยมาก เนื่องจากที่ผ่านมายังเป็นเพียงช่วงการทดลอง ลูกค้าที่มาใช้บริการก็ยังมีจำกัด อย่างไรก็ตาม ในทางเทคนิค บริษัทมีความพร้อมที่จะรองรับการชำระสินค้าด้วยเงินดิจิทัลแล้ว แต่ถ้าพาร์ทเนอร์ ยังกังวลนโยบายของ ก.ล.ต.และธปท. ทางบริษัทจะต้องขอหยุดโครงการไว้ก่อน แต่หากในอนาคตภาครัฐมีนโยบายที่ชัดเจนมากขึ้น หรืออนุญาต MAJOR ก็พร้อมจะกลับมาขายตั๋วหนังด้วยสกุลเงินดิจิทัล ได้ทันที
ก่อนหน้านี้ ทาง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จับมือ ซิปเม็กซ์ (ZIPMEX) แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย และ แรพิดซ์ (RAPIDZ) ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มโครงการ “ทดลองรับแลกตั๋วหนังด้วยสกุลเงินดิจิทัล” รายแรกของไทย ที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน เป็นที่แรก ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.64 ที่ผ่านมา
PTG เลื่อนแผนใช้คริปโทฯ รอความชัดเจนรัฐฯ
นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG กล่าวว่า แผนการใช้ คริปโทเคอร์เรนซี่ ในการชำระสินค้าในเครือ PTG ต้องเลื่อนแผนดังกล่าวออกไป เนื่องจากล่าสุดภาครัฐ เตรียมออกกฎหมายห้ามใช้สินทรัพย์ดิจิทัลชำระสินค้า ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากภาครัฐฯ อีกครั้งว่ากฎหมายจะออกมาในรูปแบบใด
"ที่ผ่านมาบริษัทได้เตรียมทำแพลตพอร์มที่รองรับคริปโทเคอร์เรนซีในการชำระสินค้าและบริการไว้แล้ว ซึ่งหากมีโอกาสบริษัทก็พร้อมจะนำออกมาใช้ทันที " นายรังสรรค์ กล่าว