xs
xsm
sm
md
lg

"เอพี ไทยแลนด์" ผู้นำทุ่มเปิด 65 โครงการ 7.8 หมื่นล้าน แตกแบรนด์ใหม่กินแชร์แนวราบ-หวนคืนตลาดคอนโดฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายวิทการ จันทวิมล
"เอพี ไทยแลนด์" ผู้นำอสังหาฯ จัดหนักจัดเต็ม โชว์ศักยภาพและความพร้อมทางด้านการเงิน บุคลากร ระบบเทคโนโลยี ลุยอสังหาฯ ปี 65 สร้างเซอร์ไพรส์เปิดโครงการใหม่สูงถึง 65 โครงการ มูลค่า 78,000 ล้านบาท หนุนโครงการทั่วไทย 182 โครงการ มูลค่าพุ่ง 149,000 ล้านบาท มั่นใจโครงการแนวราบ พระเอกหลัก เปิดกระจายไปในทำเลศักยภาพ แชร์เค้กในพื้นที่ใหม่ พร้อมปรับโฉมทาวน์โฮมในเมืองใหม่ทั้งหมด ดันสู่เป้าการเติบโตกว่า 30% กับ Big Surprise เปิดตัว 20 แบบใหม่ ขยายตลาดกินแชร์บ้านแฝด เปิดตัวแบรนด์ทาวน์โฮมน้องใหม่ PLENO TOWN เริ่ม 1.89 ล้านบาท รุกทำสินค้าบ้านเดี่ยว เจาะตลาดใหม่ๆ ปริมณฑล เน้นตลาดแมสราคา 3-5 ล้านบาท ปรับกลยุทธ์หวนคืนพัฒนาคอนโดฯ ในเมือง บน 5 ทำเลศักยภาพ มูลค่าโครงการ 13,000 ล้านบาท ทุ่มซื้อที่ดินใหม่อีก 20,000 ล้านบาท

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่า ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้น เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับภาวะซบเซา และส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคในหลายเซกเตอร์อย่างเลี่ยงไม่ได้ สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราพบว่าความต้องการซื้อและเช่าในตลาดอสังหาฯ ยังมีอยู่ เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามสถานการณ์ ซึ่งวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้คล้ายเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ในแง่ที่อสังหาฯ ไม่ได้ถูกทำลายลงไป เพียงแต่ทรานส์ฟอร์มไปตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามสภาวะเวลา

โดยทิศทางการก้าวไปข้างหน้าของเอพี ในปี 2565 นั้น นายวิทการ พูดชัดเจนว่า "จะเป็นปีที่สุดยอดของเอพี กับการพุ่งทะยานไปต่อ BREAKTHROUGH แม้จะเป็นปีที่ท้าทายมากๆ แต่ด้วยความสามารถของเราก็พร้อมสร้างความแตกต่าง" เริ่มจากไฮไลต์แรก เป็นปีที่เปิดโครงการใหม่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม โดยตามแผนงานที่ตั้งไว้ถึง 65 โครงการ (ปี 64 เปิด 19 โครงการ) มูลค่ากว่า 78,000 ล้านบาท ถือเป็นจำนวนโครงการใหม่ที่มากที่สุดตั้งแต่เคยดำเนินธุรกิจมา แบ่งเป็นทาวน์โฮม 29 โครงการ มูลค่า 25,200 ล้านบาท  บ้านเดี่ยว จำนวน 26 โครงการ มูลค่า 35,600 ล้านบาท

และการกลับมาของคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 13,000 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด 5 โครงการ มูลค่า 4,200 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีเอพีจะมีโครงการพร้อมขายทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมากกว่า 182 โครงการ มูลค่ากว่า 149,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขาย 50,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% (ร่วมJV) ที่ 47,000 ล้านบาท ตั้งงบลงทุนซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก 20,000 ล้านบาท (ปี 64 ใช้งบไป 12,600 ล้านบาท)


“การเปิดตัวโครงการใหม่ในปริมาณที่มากขนาดนี้ ถ้าระบบหลังบ้านไม่พร้อมก็ยากที่จะเป็นจริงได้ ซึ่งตลอด 2 ปีของการเผชิญวิกฤต ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของทีมเอพี ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดโครงสร้างองค์กรภายใน ให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว”

ไฮไลต์ที่น่าสนใจต่อในปีนี้ คือ การพลิกวิธีคิดในการพัฒนาทาวน์โฮมในเมืองเครือเอพีใหม่ทั้งหมด เพื่อครองภาพการเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮม ภายใต้แนวคิด “Unlock ชีวิตคนเมืองกับทาวน์โฮมเอพี พื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่เลือกได้” ด้วยเป้าหมายการเติบโตที่มากขึ้นกว่า 30% โดย Big Surprise ที่จะมาเขย่าตลาดทาวน์โฮมในทุกเซกเมนต์ ประกอบด้วย

1.การเปิดตัว 20 แบบบ้านใหม่ จาก 6 แบรนด์ทาวน์โฮมคุณภาพ
2.เตรียมกินแชร์ตลาดบ้านแฝด 3 ชั้นและ 2 ชั้นเพิ่มขึ้น กับแบรนด์บ้านกลางเมือง The Edition และแกรนด์ พลีโน่
3. บุกตลาดทาวน์โฮม 2 ชั้นในเขตปริมณฑล ด้วยแบรนด์น้องใหม่ PLENO TOWN เริ่ม 1.89 ล้านบาท


ในส่วนธุรกิจบ้านเดี่ยว ทางเครือเอพีครองความแข็งแกร่งและเติบโตในทุกเซกเมนต์ ด้วยส่วนแบ่งตลาด (Market Share) มากสุดเป็นอันดับ 1ผ่าน 3 แบรนด์หลัก และในปีนี้พร้อมบุกตลาดใหม่ในพื้นที่เขตปริมณฑล อย่างจังหวัดสมุทรสาคร และสมุทรปราการ เปิดตัวสินค้าใหม่จับกลุ่มตลาดแมส ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ภายใต้ชื่อแบรนด์ใหม่ เพื่อมุ่งเจาะกลุ่ม Gen M และ Gen Z กับแบบบ้านดีไซน์ใหม่


นอกจากนี้ ยังได้หวนคืนสู่ผู้นำตลาดคอนโดฯ ในเมือง กับแผนเปิดตัว 5 โครงการคุณภาพ มูลค่า 13,000 ล้านบาท ชู ASPIRE เป็นเรือธง (Fighting Brand) หลักบุกลุยตลาดแมส ด้วยจุดยืน LIVE AS YOU ASPIRE ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเริ่มต้น 84,000 บาท/ตร.ม.

"ตลาดคอนโดถือว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่ยังคงต้องดูในปี 65 ว่า จะกลับมาเติบโตมากน้อยเพียงใด แต่เชื่อว่าปีนี้จะเริ่มเห็นบางเซกเมนต์ที่ดีขึ้น อย่างเซกเมนต์กลางถึงกลางล่าง การขยายสู่ตลาดแมส จะเปิดโอกาสให้เรามากขึ้น และถ้ากิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับสู่ปกติ การจราจรกลับมาติดขัดเหมือนเดิมน่าเป็นโอกาสที่ดีที่มีต่อตลาดคอนโดฯ"


โดยความเคลื่อนของยอดขายในช่วงเดือนมกราคมนี้ เอพีสามารถทำได้ 4,500 ล้านบาท หรือสัปดาห์ละ 1,000 ล้านบาท หลักๆ มาจากโครงการแนวราบ 3,700 ล้านบาท และคอนโดฯ ประมาณ 500 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น