ตลาด Crypto ปรับตัวขึ้นในช่วงสั้น ๆ ในวันนี้ก่อนที่จะทรุดลงอีบรอบอย่างรวดเร็วหลังจากการประชุม FOMC ของ Fed ในวันนี้ โดย Bitcoin และ Ethereum เพิ่มขึ้นอย่างมากในวันก่อนที่จะพลิกกลับร่วงลงไปในวันนี้ โดยปัจจัยหลักที่เข้ามากระทบ คือการยืนยันของเฟดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมนี้ ส่งผลอาจทำให้เกิดความกังวลต่อนักลงทุนในทุกตลาด
จากการเปิดเผยของ cryptocoinbureau ระบุถึงผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ที่ยังคงยืนกรานในแผนการกู้วิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม โดยรายงานจากการประชุมของคณะกรรมการตลาดกลางแห่งสหพันธรัฐในสัปดาห์นี้ที่เผยแพร่ในวันนี้ แม้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะประเมินผลการประชุมล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะออกมาในทิศทางไหน ก็สิ่งที่เกิดขึ้นก็สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดทุนและตลาดคริปโตได้อย่างมากเหมือนกันหมด
เฟดกดปุ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตลาดคริปโต-หุ้น ดิ่งรับผลการประชุม
Crypto และตลาดแบบดั้งเดิมต่างก็ตกต่ำลงหลังจากรายงานการประชุม FOMC ในวันนี้และการแถลงข่าวที่สอดคล้องกันของ Jerome Powell ประธาน Fed โดยคณะกรรมการตลาดกลางแห่งสหพันธรัฐประกาศว่า แม้ว่าจะไม่แนะนำให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในทันที แต่จะยึดตามแผนการลดระยะเวลาที่ประกาศเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งจะยุติการซื้อสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพภายในต้นเดือนมีนาคมและขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยจะเริ่มปรับขึ้นรอบแรกในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการประชุม ทั้ง Bitcoin และ Ethereum ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดย Bitcoin เพิ่มขึ้นจากราคาเพียง 38,000 ดอลลาร์เป็น 38,750 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตามการปรับตัวของ Bitcoin นั้นเป็นเพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนเริ่มการประชุมเฟดเท่านั้น ซึ่งหลังผลการประชุมเสร็จสิ้นลง และได้เผยแพร่มติที่ประชุมออกไป ราคาเหรียญ Bitcoin และ Ethereum ก็ปรับตัวลดลงตอบรับผลการประชุมทันที ขณะที่ตลาดหุ้นก็เป็นไปตามรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน โดยทั้ง Nasdaq และ Dow Jones Industrial Average ปรับตัวอย่างรวดเร็วหลังจากถ้อยแถลงของ Powell จบลง
ขณะที่ Jerome Powell เน้นย้ำว่าเป้าหมายทางการเงินที่ได้รับคำสั่งจากรัฐสภาสำหรับเฟดคือมาตรการกระตุ้นการจ้างงานอย่างเต็มรูปแบบและการสร้างเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งเขาเน้นว่าวิธีหลักในการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น คือการปรับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งก่อให้เกิดคำถามที่ว่าอัตราดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้นนั้น (0.25%) จะกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมต่างๆมากน้อยแค่ไหน ซึ่งดูเหมือนว่าผลกระทบหลังจากนั้นจะทำให้นักลงทุนกังวล