xs
xsm
sm
md
lg

“ศุภาลัย” เผยปี 65 ผุด 34 โครงการใหม่ 40,000 ล้าน มั่นใจตลาดเป็นบวก วางเป้ารายได้ 29,000 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม
ศุภาลัย ประกาศลุยตลาดปีเสือทอง ชูจุดแข็งสินค้าที่อยู่อาศัยหลากหลาย สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง เดินหน้าลงทุนโครงการใหม่ทั้งแนวราบ แนวสูงรวม 34 โครงการ มูลค่า 40,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 61% วางเป้ายอดขาย 28,000 ล้านบาท โต 16% รายได้ 29,000 ล้านบาท เติบโตอย่างยั่งยืนทั้งรายได้และกำไร ควบคู่กับจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม

ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมากลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบมีอัตราการขายเพิ่มขึ้น โดยมีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 62% และที่อยู่อาศัยแนวสูงมีสัดส่วนยอดขาย 38% ของตลาดรวม ซึ่งเป็นการปรับตัวที่ดีขึ้นของคอนโดมิเนียม หลังประสบภาวะโอเวอร์ซัปพลายในช่วง 1-2 ก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ในปี 64 นั้นเป็นปีที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งในส่วนของโครงการแนวราบและแนวสูงน้อยที่สุดในรอบ 10 ปี ในส่วนของโครงการแนวราบนั้นแม้จะมีจำนวนการเปิดตัวใหม่ลดลงแต่ยอดขายกลับเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างชัดเจน เนื่องจากผู้ประกอบการมีการทำแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง หลังจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในตลาดระดับกลาง-ล่างหดตัวลง

สำหรับทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนประชากรในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาจำนวนประชากรเกิดใหม่มีอัตราการเติบโตในสัดส่วนที่ลดลง ขณะที่ผู้สูงอายุ มีอายุยืนยาวมากขึ้น ทำให้ดีมานด์ที่อยู่อาศัยใหม่มีจำกัด ขณะที่รายได้ของประชากรในกลุ่มระดับกลางค่อนข้างน้อย หรือกลุ่มรายได้ 30,000 บาทต่อเดือนลงมา มีรายได้หดตัวลงจากผลกระทบเศรษฐกิจและโควิด-19 ที่ทำให้ธุรกิจลดการจ้างงานและลดเงินเดือนพนักงานลด ปัจจัยเหล่านี้ทำให้แนวโน้มที่อยู่อาศัยเกิดใหม่ทำราคาขายต่ำลง เพื่อให้สอดรับกับกำลังซื้อและความสามารถในการก่อหนี้ของผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงที่สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเช่นปัจจุบัน

“อย่างไรก็ตาม ราคาที่ดินในปัจจุบันยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่วัสดุก่อสร้างมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อจากปีก่อน โดยเฉพาะเหล็ก และวัสดุที่ใช้เหล็กเป็นองค์ประกอบ ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้ราคาบ้านในปีนี้แพงขึ้น”


ดร.ประทีป กล่าวว่า สำหรับปี 65 นี้ สถานการณ์ตลาดน่าจะเป็นไปในทิศทางบวกด้วยดีมานด์จากกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง หรือเรียลดีมานด์โดยเฉพาะสินค้าบ้านเดี่ยวที่มียอดขายทรงตัวแม้จะอยู่ในช่วงวิกฤต ขณะที่ปัจจัยด้านเศรษฐกิจของไทยยังคงส่งผลต่อการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งในปี 65 คาดการณ์ว่าการเติบโตจะดีขึ้นตามการกลับมาเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว และการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง แต่เนื่องจากกิจการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงหายไป ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อไม่สามารถกลับมาสู่ภาวะปกติได้ในระยะสั้น ทำให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้วยความมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัย ภายใต้สินค้าที่หลากหลายครอบคลุมทุกกลุ่มความต้องการ แบ่งเป็นสินค้าที่อยู่อาศัยโครงการแนวราบ และคอนโดมิเนียมรีสอร์ตหรูมาตรฐานระดับสากล และเดินหน้ารุกตลาดภูมิภาค ขยายการลงทุนในต่างประเทศและขยายการเช่าเพิ่มขึ้น

“ปีที่ผ่านมา ศุภาลัยมียอดขายรวม 31,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 24,000 ล้านบาท และยอดขายจากโครงการร่วมทุนในต่างประเทศ 7,000 ล้านบาท ขณะที่การขยายตลาดที่อยู่อาศัยออกสู่ต่างจังหวัดยังเดินหน้ากระจายการลงทุนต่อเนื่อง โดยปัจจุบันศุภาลัยพัฒนาโครงการครอบคลุม 24 จังหวัด โดยในปี 65 ตั้งเป้าปีนี้เริ่มพัฒนาโครงการใหม่ใน 5 จังหวัดใหม่ ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ลำพูนนครสวรรค์ นครปฐม และประจวบคีรีขันธ์”

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ ศุภาลัย กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทเปิดตัวโครงการทั้งแนวราบ
และคอนโดรวม 23 โครงการ มูลค่ารวม 24,790 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 21 โครงการ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล 9 โครงการ ภูมิภาค 12 โครงการ) และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ส่วนปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมที่ 28,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 16% และมีเป้าหมายรายได้ 29,000 ล้านบาท โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 34 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 61% แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 31 โครงการและคอนโดฯ 3 โครงการ และกำหนดงบประมาณการจัดซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนในปีนี้และปีถัดไป


นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเปิดตัวแบรนด์บ้านใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าโดยทยอยเปิดตัวตั้งแต่ปลายปี 64 แล้วถึง 4 แบรนด์ ซึ่งออกสตาร์ทกับโครงการแรกของปี 65 กับแบบบ้านเดี่ยวใหม่ล่าสุด 3 แบบ 3 สไตล์ระดับลักชัวรี่ ปักหมุดทำเลแรกบนถนนบรมราชชนนี “ศุภาลัย เอเลแกนซ์ บรมราชชนนี 121”โดยหวังเป็นทางเลือกแรกของบ้านเดี่ยว 3 ชั้น เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนในทำเลดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น