ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ปรับตัวลดลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,258.45 จุด ลดลง 263.81 จุด หรือ -0.96%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,693.43 จุด ลดลง 272.12 จุด หรือ -1.09% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,508.24 จุด ลดลง 14.33 จุด หรือ -0.41%
นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 25-26 ม.ค.นี้ เพื่อดูความชัดเจนว่า เฟดมีแผนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนต่อๆ ไปหรือไม่ หลังข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ธ.ค.พุ่งขึ้นรายปีมากที่สุดในรอบเกือบ 40 ปี
ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นอย่างมาก โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 7.0% ในเดือน ธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2525 ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 9.7% ในเดือน ธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่มีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือน พ.ย.2553
ทางด้านนายเดวิด เมริเคิล นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วอาจกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 4 ครั้งในปีนี้ในเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม โดยระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น และผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ ยังคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะส่งสัญญาณการคุมเข้มนโยบายการเงินในการประชุมทุกครั้งในปีนี้ จนกว่าภาพรวมของอัตราเงินเฟ้อจะเปลี่ยนแปลงไป
นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ยังกล่าวด้วยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจมีความซับซ้อนมากขึ้น และยังทำให้เกิดภาวะไร้สมดุลของอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้จะยิ่งทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดซึ่งกล่าวต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ว่า "ดิฉันคิดว่าเฟดอยู่ในสถานะที่พร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทันทีที่โครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ยุติลง"
ถ้อยแถลงของนางเบรนาร์ด ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค.นี้ เนื่องจากคณะกรรมการเฟดได้ประกาศไว้ก่อนหน้าว่าจะเพิ่มการปรับลดวงเงินในโครงการ QE เป็นเดือนละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 โดยการปรับลดวงเงิน QE ของเฟดจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดิมเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้เฟดยุติการทำ QE ในเดือน มี.ค.2565