หุ้นไทยปิดลบ 1.28 จุด แกร่งกว่าตลาดสหรัฐฯ แนะจับตาสต๊อกน้ำมันดิบ และตัวเลขส่งออกไทย เพราะสต๊อกน้ำมันดิบมีผลต่อกลุ่มพลังงาน ซึ่งมีผลต่อน้ำหนักดัชนีสูง ส่วนตัวเลขการส่งออกต้องดูว่าจะรักษาระดับการเติบโตสูงได้หรือไม่
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกและลบ แต่ถือว่าแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันแปรไปตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond Yield) ค่อนข้างมาก แต่ทางฝั่งของตลาดเอเชีย หรือตลาดหุ้นไทยจะอ่อนไหวต่อบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ น้อยกว่า เพราะตลาดหุ้นบ้านเราไม่ได้มีคุณสมบัติเป็นหุ้นเทคโนโลยี หรือหุ้นเติบโต (Growth Stock) แต่เป็นหุ้น Value เป็นส่วนใหญ่ ทำให้แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปรับตัวลงแต่เรายังสามารถยืนบวกได้
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก ตอบรับธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ทั้งประเภท 1 ปีและ 5 ปี รวมทั้งการที่ญี่ปุ่นรายงานยอดส่งออกที่แข็งแกร่งในเดือน ธ.ค.
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,656.96 จุด ลดลง 1.28 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.08% มูลค่าการซื้อขาย 80,864.60 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ นายณัฐชาต คาดว่า ตลาดน่าจะแกว่งตัวไซด์เวย์ หากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ออกมาไม่ได้ปรับตัวขึ้นไปมากกว่าที่ตลาดคาด แต่หากสูงกว่าคาดจะส่งผลกระทบต่อการปรับลงของหุ้นกลุ่มพลังงานในบ้านเรา ซึ่งมีน้ำหนักต่อดัชนีค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ แนะนักลงทุนติดตามการเปิดเผยตัวเลขการส่งออก นำเข้าของประเทศไทย ในวันพรุ่งนี้ว่าจะยังคงรักษาระดับการเติบโตในระดับสูงได้หรือไม่ พร้อมให้แนวต้าน 1,680 จุด และแนวรับ 1,640 จุด