หน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (FSB) ได้เข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์กลุ่ม Revil แฮ็คเกอร์ชื่อกระฉ่อน ซึ่งเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการใช้แรนซัมแวร์โจมตีในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะจะเน้นการเรียกค่าไถ่และเจาะระบบกระเป๋าเงินสินทรัพย์ดิจิทัล แม้ว่าความเป็นไปได้ของทางการมอสโกที่จะมอบพลเมืองรัสเซียให้กับวอชิงตันอาจริบหรี่เต็มที แต่ก็มีความเป้นไปได้ในการยื่นเสนอเงื่อนไขส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามคำขอจากสหรัฐอเมริกา แม้ว่าลึกๆแล้วทั้งสองขั้วมหาอำนาจจะมีความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างกันเพิ่มขึ้นก็ตาม
FSB ของรัสเซียบุกโจมตี-ตรวจค้นและจับกุมกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ "REvil"
จากการรายงานของ criptopato ระบุว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (FSB) ประกาศว่าได้ดำเนินการเข้าตรวจค้นและจับกุม กลุ่มแฮ็กเกอร์ Revil ในเมืองหลวงกรุงมอสโก และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ตลอดจนเลนินกราด และลิเพตสค์ ซึ่งได้สนธิกำลังร่วมกันร่วมกับกรมสืบสวนสอบสวนของกระทรวงกิจการภายใน หรือ MVD โดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทำการค้นหาที่อยู่ซึ่งต้องสงสัยกว่า 25 แห่ง และเข้าจับกุมควบคุมตัวสมาชิกกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยจำนวน 14 คน
โดยการเข้าตรวจค้นและจับกุมในครั้งนี้ FSB และ MVD ยังได้ตรวจสอบและยึดทรัพย์สินประเภทต่าง ๆ อาทิเช่น กองทุนรวมมูลค่ากว่า 426 ล้านรูเบิล (5.6 ล้านดอลลาร์) รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลกว่า 600,000 ดอลลาร์และ 500,000 ยูโร รวมถึงกระเป๋าเงินคริปโต ตลอดจนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการก่ออาชญากรรม และรถยนต์หรูประเภทซุปเปอร์คาร์อีกกว่า 20 คันที่ซื้อด้วยเงินที่ได้จากการก่ออาชญากรรมไซเบอร์
FSB เสริมว่าบุคคลที่ถูกจับกุมได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายและจัดการขโมยเงินจากบัญชีธนาคารต่างประเทศ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่รัสเซียอ้างว่าได้ จากหลักฐานทั้งหมดที่สามารถรวบรวมได้ พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่ามีองค์ประกอบสอดคล้องกับกลุ่มของ Revil และการมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่มซึ่งมีการได้มาของสินทรัพย์ที่โจรกรรมได้และการนำเงินที่ได้มาหมุนเวียนผ่านทางวิธีการชำระเงินที่ผิดกฎหมายและบันทึกกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอื่นๆร่วมด้วย
สหรัฐประสานความร่วมมือรัสเซียในการดำเนินการต่อต้านแฮกเกอร์
หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหลักของรัสเซียยังกล่าวด้วยว่า การดำเนินการดังกล่าวได้เป้นไปตามคำขอของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทางการสหรัฐฯ ซึ่งได้มีการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับหัวหน้ากลุ่มของ Revil และการโจมตีบริษัทด้านเทคโนโลยีในต่างประเทศผ่านซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายซึ่งใช้ในการเข้ารหัสข้อมูลและรีดไถเงินสำหรับการถอดรหัส
สำนักข่าว Russian Interfax รายงานว่าศาล Tverskoy แห่งมอสโกได้ควบคุมตัวชาวรัสเซียสองคนไว้ในความดูแลจนถึงวันที่ 13 มีนาคม โดย Roman Muromsky ผู้ประกอบการและนักพัฒนาเว็บอายุ 33 ปีซึ่งไม่มีความผิดก่อนหน้านี้ และ Andrei Bessonov ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแฮ็กเกอร์ Revil พวกเขาถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมภายใต้ข้อกฏหมาย "วิธีการชำระเงินอย่างผิดกฎหมาย” แห่งประมวลกฎหมายอาญาของรัสเซีย โดย MVD ได้ขอให้ศาลใช้มาตรการที่คล้ายคลึงกันกับผู้ต้องขังอีกสามคน
ทั้งนี้ Revil ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ใช้แรนซัมแวร์เพื่อโจมตีและเรียกค่าไถ่เป็น crypto ต่อกิจการด้านเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึงโปรแกรม Colonial Pipeline ที่ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนก๊าซในชายฝั่งตะวันออกของอเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้กระทำความผิดใช้ซอฟต์แวร์เข้ารหัส 'Darkside' ซึ่งเชื่อว่าได้รับการพัฒนาโดยกลุ่ม Revil อีกกรณีหนึ่งคือการโจมตีบริษัท JBS ซึ่งเป็นบริษัทบรรจุเนื้อสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ในการประกาศดังกล่าว FSB ตั้งข้อสังเกตว่ารัสเซียได้แจ้งให้ทางการสหรัฐฯ ทราบเกี่ยวกับผลการดำเนินการแล้ว สหรัฐอเมริกาได้แสดงความยินดีต่อการจับกุมดังกล่าว โดยสำนักข่าวรอยเตอร์อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งว่า “เราเข้าใจดีว่าหนึ่งในบุคคลที่ถูกจับกุมในวันนี้มีหน้าที่รับผิดชอบในการโจมตีท่อส่งก๊าซอาณานิคมเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว” แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับการสอบสวนบอกกับ Interfax ว่ารัสเซียจะไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนสมาชิก Revil ที่มีสัญชาติรัสเซียไปยังสหรัฐอเมริกา แต่อาจมีการขยายผลความเสียหายร่วมกันโดยอยู่ในช่วงของการเจรจาตกลงเงื่อนไขระหว่างประเทศ