“ตราเพชร” คาดตลาดวัสดุก่อสร้างปี 65 เติบโต 3-5% แม้มีความเสี่ยงโควิด-19 และปัจจัยต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น มองสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ฮอต รับกระแสผู้บริโภคให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ชูศักยภาพความพร้อมด้านความหลากหลายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ และบริหาร Product Mix รักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ตั้งเป้าปีนี้เติบโตต่อเนื่อง 5%
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวว่า ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 65 คาดว่าจะเติบโต 3-5% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และภาครัฐเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจกตฺด้านคมนาคมขนาดใหญ่ ที่ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชน แม้สถานการณ์ปัจจุบันมีความเสี่ยงด้านการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แต่พบว่าผู้ประกอบการร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายย่อยมีการสั่งสินค้าเพื่อเก็บสต๊อกรอการขายเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เริ่มวางแผนเปิดโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ประกอบการห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ที่ยังคงเดินหน้าแผนการลงทุนขยายสาขา
ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้างที่จะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคยังคงเป็นกลุ่มไม้สังเคราะห์ เนื่องจากมีความสวยงามเสมือนไม้ธรรมชาติ สอดคล้องกับกระแสรักษ์โลก แข็งแรงทนทานและสะดวกรวดเร็วในการติดตั้ง จึงทำให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์ไม้สังเคราะห์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง DRT มีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในกลุ่มนี้เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้แก่ผลิตภัณฑ์ที่เน้นฟังก์ชันที่สะดวก ง่ายต่อการติดตั้ง เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่กลุ่มช่างและผู้บริโภค รวมถึงบริษัทฯ ยังตอกย้ำกลยุทธ์การตลาดภายใต้แนวคิด ‘สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง’ และการบริหาร Product Mix เพื่อรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 27-29% ควบคู่กับการรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรโดยเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 80-90% เพื่อรับมือต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตลอดจนลงทุนติดตั้งโรบอตในไลน์การผลิตตามแผนระยะยาว 5 ปี ตั้งเป้าจำนวน 50 ตัวใน 5 ปี เพื่อผลักดันฐานการผลิตไปสู่ Smart Factory
ขณะที่ ‘ไดมอนด์ คาเฟ่’ ร้านกาแฟสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ บริษัทฯ มีแผนจับมือกับพันธมิตรที่ทำธุรกิจเชนร้านกาแฟเพื่อขยายตลาดจับลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจร้านกาแฟด้วยงบประมาณก่อสร้างไม่บานปลาย ด้วยทีมช่างที่มีความชำนาญงานติดตั้งและสินค้าที่มีความคุณภาพได้มาตรฐาน จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทฯ ภายในปีนี้
“แม้ปีนี้จะมีสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 และความท้าทายในการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น แต่ด้วยศักยภาพและความพร้อมของ DRT ที่มีข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันทั้งด้านแบรนด์สินค้าเป็นที่ยอมรับ ผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายสามารถนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง กำลังการผลิตที่มีเพียงพอและการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ เรามั่นใจว่าจะเอาชนะอุปสรรคและความท้าทายที่เกิดขึ้นด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดี จึงตั้งเป้าปีนี้เติบโต 5% และตอกย้ำ DRT เป็นหุ้นปันผลที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง” นายสาธิต กล่าว