กูรูแนะจับตา LTF ปี 65 ครบกำหนดไถ่ถอน 7 ปี คาดยอดขายตั้งแต่ 5,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 30,000 ล้านบาท ASPS ชี้แรงขาย LTF ทำตลาดหุ้นต้นปีผันผวน ระบุเดือน ม.ค. เป็นช่วงขายหนักสุดของปีถึง 24% ส่วนหุ้น SET50 กลุ่มแบงก์ พลังงาน ค้าปลีก สื่อสาร คือเป้าหมายที่ถูกขาย
ASPS ชี้แรงไถ่ถอน LTF ทำหุ้นไทยต้นปีผันผวน
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด เปิดเผยว่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวนในช่วงต้นปี 2565 คือ ผลกระทบจากไถ่ถอนเงินในกองทุน LTF ปี 59 ที่ครบกำหนดการถือครอง 7 ปี มีรายละเอียดดังนี้ 1.ยอดซื้อสะสมกองทุน LTF รวมปี 59 สูงถึง 5.86 หมื่นล้านบาท 2.ยอดซื้อสะสมปี 2559 คิดเป็นมูลค่าตลาด ณ ปัจจุบัน 6.38 หมื่นล้านบาท หรือมีต้นทุนซื้อสะสมในปี 59 เทียบกับ SET อยู่ที่ 1,504 จุด อาจเห็นเม็ดเงินดังกล่าวทยอยขายออกมา เพราะเม็ดเงินดังกล่าวช่วยลดหย่อนภาษีไปแล้ว และปัจจุบันยังมีกำไรเฉลี่ยราว 8% และ 3.ปกติจะมีแรงขายในเดือน ม.ค.มากสุดราว 24% ของแรงขายทั้งปี
ทิสโก้ มองเงินไหลออกไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า แรงกดดันจากเงินกองทุนรวมระยะยาว (LTF) ครบกำหนด 7 ปี ปกติมักไหลออกในช่วงไตรมาสที่ 1 ของทุกปี จากการประเมินของบริษัทคาดว่าเงินก้อนนี้จะสามารถไหลออกได้มากถึง 5 หมื่นล้านบาท แต่เชื่อว่าจะมีเม็ดเงิน LTF บางส่วนไหลกลับไปลงทุนกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) อีกครั้งเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ส่งผลให้เงิน LTF ที่จะไหลออกสุทธิน่าจะไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาท
หยวนต้าคาดหุ้นแบงก์-พลังงาน-ค้าปลีก-สื่อสารกระทบ
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กรณีการครบกำหนดการไถ่ถอนกองทุน LTF ซึ่งครบกำหนด 7 ปีในปี 65 นี้ คาดว่ากองทุน LTF จะมียอดไถ่ถอนออกมาประมาณ 5,000 ล้านบาท เนื่องจากกำไร (Return) จากการถือครองในรอบ 7 ปี อาจมีแรงจูงใจน้อยเนื่องจากดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาประมาณกว่า 12% ประกอบกับก่อนหน้านี้ภาพรวมของกองทุนที่ขาย (Redemption) ในตลาดหุ้นไทยทยอยออกมาต่อเนื่อง
"ภาพรวมของกองทุนโดยรวมทั้งหมดในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (ส.ค.-ธ.ค.64) ขายแล้วกว่า 58,000 ล้านบาท ดังนั้น ภาพรวมกองทุนมีเม็ดเงินรองรับเพียงพอสำหรับการไถ่ถอนหน่วยลงทุนอื่นๆ ได้ ดังนั้น คาดว่าแรงขายของกองทุน LTFในรอบปี 65 นี้ คงมีไม่มาก เพราะบางส่วนอาจยังคงถือยาวต่อเนื่องมากกว่า 7 ปี" นายณัฐพล กล่าว
สำหรับหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากการขายของกองทุน LTF จะเป็นกลุ่มใหญ่ใน SET50 เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ พลังงาน ค้าปลีก สื่อสาร เป็นต้น
เขากล่าวว่า ภาพรวมดัชนีปรับเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 2558 จากดัชนีที่ระดับ 1,425 จุด จนถึงประมาณ 1,600 จุด ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณกว่า 12% แต่อาจจะไม่ได้มีแรงจูงใจในการขาย LTF ออกมาในปี 65 มาก อีกทั้งกองทุนเริ่มขายปรับพอร์ตไปแล้ว
กิมเอ็งคาดแรงขายไม่กระทบ SET จบครึ่งแรก ม.ค.
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าจะเห็นยอดไถ่ถอน LTF ในปีนี้ประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป้าหมายการขายอยู่ใน SET50 โดยการซื้อของกองทุน LTF หากซื้อตอนฐานต่ำช่วงต้นปี 2559 และขายจะได้กำไรดีกว่าซื้อตอนช่วงปลายปี แล้วขายในต้นปีนี้ เนื่องจากลักษณะการแกว่งตัวของดัชนีในปีดังกล่าวเป็นลักษณะแกว่งตัวขึ้น (Sideway up)
อย่างไรก็ตาม มองว่าการขายของกลุ่ม LTF ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ เพราะจำนวนเงินที่ไถ่ถอนดังกล่าวโดยรวมมีเพียงเล็กน้อย โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อดัชนีในช่วงนี้มองว่าอ้างอิงกับปัจจัยต่างประเทศมากกว่า โดยคาดว่าแรงขายของกองทุน LTF จะจบลงในช่วงครึ่งเดือนแรก ม.ค.65