นักเศรษฐศาสตร์และผู้ก่อตั้ง HS Dent Publishing มองวิกฤตการตกต่ำทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในปี 2565 ฉุดให้ราคา Bitcoin ร่วงลงแรงเหลือประมาณ 7,000 ดอลลาร์
Harry Dent นักเศรษฐศาสตร์และผู้ก่อตั้ง HS Dent Publishing ซึ่งเปิดเผยผ่านทาว Kitco News ว่า แนวโน้มวิกฤติเศรษฐกิจอาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้น จากภาวะการตกต่ำทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในปีนี้ โดยความผันผวนของตลาดเมื่อเร็วๆ นี้เกิดจากรายงานการประชุมของเฟดที่ประกาศจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลดขนาดงบดุลลง ซึ่งส่งผลทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางคนออกมาเตือนว่าอาจกระทบต่อโครงข่ายตลาดทุนและอาจทำให้ภาคเศรษฐกิจพังทลายลงในปี 2565
“แนวโน้มหากเกิดวิกฤติขึ้นมา ตลาดหุ้นโดยทั่วไปจะตกต่ำลงกลับไปใกล้เคียงกับปี 1929 ถึงปี 1932 โดยเฉลี่ยประมาณ 87% สำหรับ S&P 500 และอาจสูงกว่าเล็กน้อยสำหรับ Nasdaq ซึ่งนักลงทุนต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และการลงทุนอาจทยอยฟื้นตัวกลับมาในช่วงปลายปี 2566"
นอกจากนี้ Harry Dent ยังแนะนำว่าผลกระทบครั้งแรก ควรเกิดขึ้นภายใน 3 เดือนแรกของปีนี้
“คิดว่าผลกระทบในตลาดทุนจะเริ่มเห็นชัดเจนในอีก 3 เดือนข้างหน้า และจะเห็นการปรับฐานและลดลงของดัชนีการลงทุนครั้งสำคัญ ดังนั้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ อาจเห็นภาพการหดตัวของเศรษฐกิจและภาคการลงทุนมากถึง 45% ถึง 55% และเมื่อทยอยปรับตัวลดลงแล้ว จะไหลลงอย่างเร็วมาก"
อย่างไรก็ดีตอนนี้เทรนการลงทุนยอดนิยมคือ cryptocurrency ซึ่งไม่รวมอยู่ใน Nasdaq แต่ลักษณะการลงทุนใกล้เคียงกันกับเทรนการลงทุนในหุ้นกลุ่มโทรคมนาคมที่มาแรงในปี 2542 และต้นปี 2543
นักลงทุนควรถอนตัวออกจากตลาด Crypto จากความผันผวนครั้งนี้หรือไม่
“ควรจะเริ่มวางแผนและขายชอร์ตหุ้นและคริปโต โดยในท้ายที่สุด Dent เชื่อว่า Bitcoin จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดมากกว่าตลาดอื่น ๆ ในช่วงที่เกิดการล่มสลายทางเศรษฐกิจและการลงทุน โดยจะปรับตัวลดลงเหลือประมาณ 7,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 235,000 บาท ณ อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน"
อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อในทางกลับกันว่าคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) เป็นภาคส่วนเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่และจะเป็นเทรนการลงทุนที่สำคัญในอนาคต