xs
xsm
sm
md
lg

ASW ปลื้มปี 64 รอโอนกว่า 7.6 พันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"แอสเซทไวส์" ประเมินไตรมาส 4/64 ธุรกิจสดใสหลังดีมานด์ฟื้นชัด หนุนยอดขายโครงการคึกคัก ผู้บริหารมั่นใจผลงานปี 64 เป็นที่น่าพอใจ ยอดขายรอโอน 7.6 พันล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ยาว 2-3 ปี พร้อมกางแผนปี 65 ลุยเปิดโครงการใหม่มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่เติบโตด้วยกลยุทธ์ “Best Choice” เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 มีสัญญาณที่ดีขึ้นจากนโยบายภาครัฐทั้งการเปิดประเทศ และมาตรการผ่อนคลาย LTV ออกไปถึงปี 2565 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และกำลังซื้อที่อยู่อาศัยฟื้นสนับสนุนยอดขายฟื้นตัวชัดเจน ขณะเดียวกัน ด้วยกลยุทธ์การขายแบบออนไลน์ และการออกแคมเปญใหม่สร้างแรงจูงใจเพิ่มขึ้น ช่วยผลักดันให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ดังนั้น ทำให้มั่นใจว่ารายได้ปี 2564 เป็นที่น่าพอใจ

ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ากว่า 7,600 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้รายได้ในอนาคตภายใน 2-3ปี (ปี 2565-2567)

“ในปี 2564 ถือเป็นอีกปีที่ท้าทาย ภายใต้สถานการณ์ที่กดดันการแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทฯ ได้เรียนรู้และปรับตัวเพื่อสร้างผลงานและความสำเร็จ เราทำผลงานได้ตามเป้าหมาย โดยงวด 9 เดือนของปี 2564 ที่ผ่านมา ยังรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 45.1% และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 21.0% และยังสามารถสร้างยอดโอนจากโครงการโมดิซสุขุมวิท 50 ส่งท้ายในไตรมาส 4 ได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ ASW มีสินค้าที่ตอบโจทย์ในแต่ละกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งแบรนด์โมดิซ (Modiz) แบรนด์แอทโมซ (Atmoz) และโครงการแบรนด์เคฟ (Kave) ” นายกรมเชษฐ์ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปี 2565 บริษัทเตรียมปักธงลุยเปิดโครงการในทำเลใหม่อีกหลายโครงการที่จะตอบโจทย์ความเป็น “Best Choice” ในแต่ละทำเล โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีกหลายโครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท อีกทั้งเร่งการก่อสร้างโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนในปี 2565 เพื่อรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ โมดิซ ลอนซ์ มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้านบาท โครงการ ไอเวอรี่ รัชดา มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท โครงการ โมดิซ คอลเลคชั่น บางโพ มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้านบาท และโครงการ เคฟ เอวา มูลค่าโครงการกว่า 2,300 ล้านบาท สนับสนุนต่อการสร้างรายได้ และผลกำไรแก่บริษัทอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น