บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นช่วงนี้ไม่ได้เลวร้ายมากนัก แต่หุ้นใหม่ที่เข้ามาซื้อขายช่วงนี้หลายตัวกลับเลวร้าย ราคาต่ำกว่าราคาจอง ทำให้นักลงทุนขาดทุนกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะหุ้นน้องใหม่ตัวล่าสุด บริษัท โนวา ออร์แกนิค จำกัด (มหาชน) หรือ NV
รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหุ้นน้องใหม่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 3 บริษัท ประกอบด้วย หุ้นบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ WFX และ NV
BRI เป็นบริษัทลูกของบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 70.37% ของทุนจดทะเบียน โดยนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไปในราคา 10.50 บาท และหุ้นประเดิมซื้อขายวันที่ 21 ธันวาคมเป็นวันแรก ปิด 12.40 บาท สูงกว่าจอง 1.90 บาท หรือสูงกว่าจอง 18.10%
ล่าสุด วันที่ 24 ธันวาคมปิดที่ 11.60 บาท สูงกว่าจอง 1.10 บาท
ส่วน WFX เป็นบริษัทลูกของบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB โดยถือหุ้นในสัดส่วน 66.35% ของทุนจดทะเบียน และนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไปในราคา 7.20 บาท หุ้นประเดิมซื้อขายวันแรกเมื่อ 23 ธันวาคม และปิดที่ 8.45 บาท สูงกว่าจอง 1.25 บาท หรือสูงกว่าจอง 17.36%
ล่าสุด วันที่ 24 ธันวาคมปิดที่ 7.55 บาท สูงกว่าจองเพียง 35 สตางค์
ส่วน NV นำหุ้นเสนอขายนักลงทุนในราคา 6.90 บาท หุ้นเข้าซื้อขายวันแรก 24 ธันวาคม โดยเปิดที่ 6.80 บาท ต่ำกว่าราคาจอง 10 สตางค์ และแม้จะมีแรงซื้อพยุงราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 7 บาท แต่ถูกถล่มจนรูดลงมาปิดที่ 6 บาท ต่ำกว่าจอง 90 สตางค์ หรือต่ำกว่าจอง 13.04%
ในวันเดียวกันที่หุ้น NV เข้าซื้อขาย หุ้นเพิ่มทุนจำนวน 770 ล้านหุ้นของ บริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อในราคา 43.50 บาทก็เข้าซื้อขาย และถูกถล่มขายจนราคาปิดที่ 42.50 บาท ลดลง 2.25 บาท ทำให้ประชาชนที่จองซื้อขาดทุนหุ้นละ 1 บาท
แม้หุ้นใหม่ทั้ง 3 บริษัทจะไม่ต่ำกว่าราคาจองทั้งหมด แต่ราคาไม่คึกคักเหมือนหุ้นน้องใหม่ที่เข้าซื้อขายก่อนหน้า ซึ่งหลายตัวสูงกว่าราคาจองกว่า 100% ในวันแรก และบางตัวถูกลากขึ้นไปชนเพดาน 200
และแม้ BRI กับ WFX จะยังยืนเหนือจองได้ แต่สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ เพราะราคาบนกระดานถอยลงมาใกล้ราคาจองแล้ว โดยกันชนของนักลงทุนที่จองซื้อไว้ และไม่ชิงขายทำกำไรในวันแรกเริ่มแคบลง จนมีสิทธิขาดทุนได้เหมือนกัน
แต่สำหรับน้องใหม่ NV เล่นงานคนที่จองซื้อไว้อย่างเจ็บแสบตั้งแต่วันแรก และระหว่างชั่วโมงซื้อขาย แทบไม่มีโอกาสขายเพื่อถอนทุนได้เลย
NV เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม นำหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 150 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 50 สตางค์ เสนอขายประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในราคาหุ้นละ 6.90 บาท คำนวณค่าพี/อี เรโช ประมาณ 8.30 เท่า ระดมเงินไปได้แล้ว 1,035 ล้านบาท
ถ้าพิจารณาจากค่าพี/อี เรโช ดูเหมือนว่า ราคาเสนอขายไม่แพง แถมยังสร้างข่าวดี ทำให้นักลงทุนฝันถึงแนวโน้มการเติบโตอย่างสวยหรู
แต่เมื่อเข้ามาซื้อขายไม่รู้ใครขนหุ้นจากที่ไหนมาทุบขาย และถล่มขายทันทีที่เปิดตลาด จนราคาหลุดจอง และทำให้นักลงทุนที่จองซื้อไว้เจ็บตามๆ กัน
เพียงวันแรกที่เข้าซื้อขาย NV กลายเป็นหุ้นน้องใหม่ตัวอันตรายไปเสียแล้ว ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็มีหลายกลุ่ม ไม่รู้ว่าใครทุบอีกด้วย
หุ้นที่มีค่าพี/อี เรโช เพียง 8 เท่า ถ้าแนวโน้มผลประกอบการเติบโตสดใสจริง ทำไมใครจึงขนหุ้น NV มาเทขาย