"เอ็น.ดี.รับเบอร์" คาดรายได้ในปีนี้เติบโตกว่าปีก่อนที่ทำได้ 778 ล้านบาท แม้เจอผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 เผยงัดกลยุทธ์คุมต้นทุน มุ่งเน้นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ตรงตามมาตรฐานที่ลูกค้ากำหนด หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมระบุ ETRAN มีแผนเปิดให้บริการ Swap Station เพิ่มอีก 6 สถานี
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เผยว่า บริษัทคาดการณ์แนวโน้มรายได้ในปี 2564 น่าจะมีโอกาสเติบโตกว่าปีก่อนที่ทำได้ 778 ล้านบาท แม้ว่าปีนี้จะเจอสถานการณ์ที่ท้าท้ายจากการระบาดของโควิด-19 แต่บริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้ทันท่วงทีกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
"ปีนี้อาจจะเป็นปีที่ไม่ง่ายเหมือนปีที่แล้ว เพราะนอกจากสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่หมดไป ยังมีปัญหาต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นมาอีก แต่เรายังสามารถจัดการได้อยู่ และมั่นใจว่าผลประกอบการจะยังสามารถทำกำไรได้ด้วยวิธีการควบคุมค่าใช้จ่าย และปรับลดโปรโมชันการขายเพื่อรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสม" นายชัยสิทธิ์ กล่าว
โดยในไตรมาส 3/2564 และต่อเนื่องไตรมาส 4/2564 บริษัทฯ ได้มีการปรับลดโปรโมชันและส่วนลดส่งเสริมการขายต่างๆ ลง เพื่อรักษาอัตราการทํากําไร โดยสัดส่วนโครงสร้างรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ แบ่งตามชนิดของผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เป็นดังนี้ 1.ยางนอกรถจักรยานยนต์ 2.ยางในรถจักรยานยนต์ 3.แบตเตอรี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ 4.ชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตจากยาง และ 5.รายได้จากการขายอื่นๆ
กรรมการผู้จัดการ NDR กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังคงมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นําในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตยางรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้ากําหนด เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นายชัยสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการดำเนินธุรกิจของบริษัทร่วมทุน คือ บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด (ETRAN) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้านั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการเปิดให้บริการ Swap Station เพิ่มอีก 6 สถานี นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะปรับปรุงคุณสมบัติรถและชิ้นส่วนเพื่อผลิต MYRA2 ในช่วงไตรมาส 2/2565
