ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าร่วงต่อไปเป็นกว่า 10 จุด รับแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ นำโดยกลุ่มแบงก์ และ DELTA ฉุดตลาด กังวลกระทรวงคลังเตรียมพิจารณาแนวทางการเก็บภาษีจากการขายหุ้น และสถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก รวมถึงไทยเองพบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 63 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ดังนั้น ทางการจึงเตรียมพิจารณายกระดับมาตรการเข้มงวดขึ้น
โดยเมื่อเวลา 09.56 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,631.42 จุด ลดลง 10.31 จุด (-0.63%)
ต่อมาเมื่อเวลา 11.03 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,621.34 จุด ลดลง 20.39 จุด (-1.24%)
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.35 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,617.97 จดลดลง 23.76 จุด (-1.45%)
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับลงถ้วนหน้า จากความกังวลสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในยุโรปและสหรัฐฯ ที่จำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้นมากจนต้องกลับมาใช้มาตรการเข้มงวดขึ้น และในบางพื้นที่มีการล็อกดาวน์แล้ว ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงด้วยจากการมองว่าความต้องการใช้อาจลดลง
นอกจากนั้น แนวคิดการเก็บภาษีจากการขายหุ้นขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่ากระทรวงการคลังจะทำจริงหรือไม่ แต่ก็เป็น Sentiment ลบให้ตลาด ซึ่งหากเก็บจริงอาจจะกระทบวอลุ่มเทรดแน่นอน แต่ขณะนี้มีผู้คัดค้านมากกว่าผู้สนับสนุน
อย่างไรก็ดี บ้านเรามีประเด็นต้องติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะมีการประกาศของขวัญปีใหม่ให้คนไทย ไม่ว่าจะเป็นช้อปดีมีคืน การออกมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นต้น ทำให้หุ้นในกลุ่มค้าปลีก และหุ้น EA น่าลงทุนหากปรับตัวลงลึกสามารถเข้าลงทุนได้ พร้อมให้แนวรับ 1,625 จุด ส่วนแนวต้าน 1,645 จุด