บมจ.มีนาทรานสปอร์ต หรือ MENA ผู้ให้บริการขนส่งด้วยรถมิกเซอร์และรถเทรลเลอร์ ยิ้มรับภาพรวมปลายปีสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว งานก่อสร้างเริ่มกลับมาเดินหน้าเต็มกำลัง หนุนความต้องการรถขนส่งพุ่ง มองผลงาน Q4/64 เติบโตขึ้นจาก Q3/64 ซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่ปลายปีบุกตลาดขนส่งสินค้าเฉพาะทาง ควักเงินลงทุนขยาย Fleet รถบรรทุกและรถควบคุมอุณหภูมิราว 40 คัน จากปัจจุบันมีรถขนส่งภายใต้การบริหารจัดการกว่า 600 คัน มองปี 65 ฉายภาพการเติบโตในธุรกิจขนส่งได้ชัดเจน
นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4/64 เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศไทยเริ่มกลับมาเดินหน้า มีการเปิดประเทศ และงานโครงการก่อสร้างเร่งส่งมอบตามแผน รวมไปถึงการเปิดประมูลงานเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่หลายโครงการของภาครัฐ ส่งผลให้มีความต้องการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์และงานขนส่งด้วยรถเทรลเลอร์เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ขยายโอกาสไปยังกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆ ในการให้บริการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าเฉพาะทาง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตที่ดี เพื่อสนับสนุนฐานรายได้ที่มั่นคง ฟุ้งมีแผนขยาย Fleet รถเพิ่มเติมอีกกว่า 40 คัน ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนในปี 65 นี้
จากภาพรวมอุตสาหกรรมขนส่งที่ฟื้นตัว และการเดินหน้างานโครงการขนาดใหญ่ในหลายโครงการ สนับสนุนทิศทางผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/64 คาดว่าจะเติบโตขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/64 ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ปิดไซต์งานก่อสร้างเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ส่งผลต่อความต้องการใช้คอนกรีตผสมเสร็จในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างเป็นสาระสำคัญ และมีมาร์เกตแชร์ลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ประมาณ 8.4% รวมทั้งส่งผลกระทบไปถึงการขนส่งปูนซีเมนต์ผงและขี้เถ้าลอย ไปยังพื้นที่ที่ถูกล็อกดาวน์ ทำให้รอบเที่ยวงานของรถเทรลเลอร์ปรับลดลงเมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรก และกระทบภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 ทำให้ผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 64 มีรายได้รวม 411.84 ล้านบาท กำไรสุทธิ 20.03 ล้านบาท
สำหรับโครงสร้างรายได้ในงวดไตรมาส 3/64 มาจากธุรกิจให้บริการรถมิกเซอร์ 71% รถเทรลเลอร์ 24% และรายได้จากการขาย 5% แต่กำไรขั้นต้นมาจากธุรกิจให้บริการรถมิกเซอร์สูงถึง 85% รถเทรลเลอร์ 14% และรายได้จากการขาย 1% ณ สิ้นไตรมาส 3/64 บริษัทฯ มีกองยานรถมิกเซอร์ภายใต้การบริหารรวม จำนวน 471 คัน และมีรถเทรลเลอร์ (หัวลาก) 75 คัน นอกจากนี้ ยังมีรถกึ่งพ่วง หรือหางลากประเภทต่างๆ 105 คัน เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดที่มีความแข็งแกร่ง และได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้ามายาวนาน และมีแผนจะขยายกองยานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการใช้เงินที่ได้จากการระดมทุน IPO ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในไตรมาส 3/64 โดยได้จ่ายคืนหนี้ระยะสั้นจำนวน 20 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 40 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนขยายรถขนส่งในสถานการณ์โควิด-19 ที่มีการล็อกดาวน์ปิดเมือง คู่ค้าที่ MENA เข้าไปประมูลงานรถขนส่งได้ชะลอการเจรจาจึงยังไม่มีการขยาย Fleet ในไตรมาส 3 แต่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น MENA ก็ได้เริ่มลงทุนขยาย Fleet รถขนส่งในไตรมาส 4 ปีนี้ รวม 18 คัน แบ่งเป็นรถบรรทุก 10 ล้อ จำนวน 3 คัน และรถบรรทุก 4 ล้อ (Jumbo) จำนวน 5 คัน ซึ่งเป็นการขยาย Fleet ขนส่งในธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจก่อสร้าง โดยจะเริ่มให้บริการขนส่งในเดือนธันวาคมนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ลงทุนในรถ 10 ล้อควบคุมอุณหภูมิจำนวน 10 คัน โดยคาดว่าจะสามารถให้บริการขนส่งได้ในไตรมาส 1/65 มูลค่าการลงทุนสำหรับทั้ง 2 โครงการเป็นจำนวน 52.5 ล้านบาท โดยเป็นการใช้เงินจาก IPO จำนวน 32.9 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อบริหารต้นทุนทางการเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น และเพื่อให้บริษัทสามารถขยาย Fleet รถได้มากขึ้นรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต
ในปี 65 บริษัทฯ อยู่ระหว่างขยายรถขนส่งเพิ่มเติมอีก ปัจจุบันมีแผนการลงทุนที่อยู่ระหว่างการเจรจา เช่น รถขนส่งสินค้าเฉพาะทาง 17 คัน รถ 10 ล้อควบคุมอุณหภูมิ 4 คัน คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 62 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มี Fleet รถขยายเพิ่มใหม่รวมกว่า 40 คัน
"ภาพรวมการดำเนินงานในช่วงที่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการบริหารงานภายในอย่างรัดกุม รวมถึงการปรับลดต้นทุนต่างๆ เพื่อให้ผลการดำเนินงานออกมาอยู่ในระดับที่ดี อีกทั้ง MENA ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานโครงสร้างพื้นฐาน รถมิกเซอร์จึงเป็นพาหนะสำคัญในการขนส่งเพื่อให้งานก่อสร้างดำเนินต่อไปได้ อีกทั้งลูกค้าหลักของบริษัทฯ เป็นกลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์ชั้นนำของประเทศ และเราไม่หยุดอยู่ที่อุตสาหกรรมก่อสร้างเพียงอย่างเดียว ธุรกิจขนส่งเป็นสิ่งที่เราเชี่ยวชาญ จึงขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นโอกาส ในปี 65 น่าจะได้เห็นการขยาย Fleet รถใหม่ๆ อีกจำนวนมาก เพื่อรับตลาดนี้" นางสุวรรณา กล่าว