โบรกฯ มองหุ้นไทยเช้านี้แนวโน้มดัชนีแกว่งไซด์เวย์คล้ายภูมิภาคในช่วงรอผลประชุมเฟด ซึ่งคาดว่าจะส่งสัญญาณในทางเข้มงวดมากขึ้น หลังจากที่เผชิญแรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ สูงกว่าคาดด้วย ทำให้มีโอกาสที่จะเร่งปรับลด QE มากขึ้น และอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันร่วงติดกัน 2 วันซ้อนเป็นปัจจัยกดดัน
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์คล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้แกว่งไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบ แต่ค่อนไปทางลบ ในช่วงรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งสัญญาณในทางเข้มงวดมากขึ้น หลังจากที่เผชิญแรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ สูงกว่าคาดด้วย ทำให้มีโอกาสที่จะเร่งปรับลด QE มากขึ้น และอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นด้วย ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 65
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวลง 2 วันติดต่อกัน หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางอื่นในสัปดาห์นี้ด้วย อย่างการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) รวมถึงติดตามเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ส่วนบ้านเราให้ติดตามตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะประกาศการปรับการคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 ในสัปดาห์นี้ด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,625 ถัดไป 1,615-1,616 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด