การพุ่งทะยานอย่างร้อนแรงของเงินดิจิทัลของไทย ปลุกให้สังคมต้องมาสนใจในความเคลื่อนไหว พร้อมความวิตกกังวลความเสียหายของนักเก็งกำไรที่แห่เข้าไปซื้อขาย จนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต้องลงไปตรวจสอบว่ามีการปั่นราคา “คริปโต” หรือสินทรัพย์ดิจิทัลกันหรือไม่
คริปโตของไทยทั้งหมดมีอยู่ 3 สกุล ประกอบด้วย KUB COIN, JFIN COIN และ SIX COIN
KUB COIN พุ่งขึ้นจากราคาประมาณ 13 บาท ขึ้นมาแตะที่ 500 บาท ภายในเวลาประมาณ 2 เดือน
JFIN COIN เมื่อต้นปียืนอยู่ที่ 2.42 บาท แต่ถูกลากขึ้นมาสูงสุดที่ 245 บาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10,000%
ส่วน SIX COIN จากราคา 0.0019 ดอลลาร์สหรัฐ ถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 0.56 ดอลลาร์ ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 0.19 ดอลลาร์
สัปดาห์ก่อน คริปโตไทยทั้ง 3 สกุล กอดคอกันวิ่ง สร้างความตื่นตระหนกให้นักเก็งกำไร และเกิดการตามแห่เข้าไปซื้อขาย ก่อนราคาจะดิ่งลง โดย KUB COIN ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 6.83 ดอลลาร์ JFIN COIN เคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 77 บาท
แมลงเม่าที่แห่กันเข้าไปลุยคริปโตไทยในรอบนี้บาดเจ็บหนักกันถ้วนหน้า และยังไม่รู้ว่า ราคาเหรียญที่พุ่งขึ้นอย่างหวือหวาเป็นการซื้อขายตามกลไกตลาดโดยธรรมชาติ หรือมีใครอยู่เบื้องหลังการปั่นราคา
ก.ล.ต.สามารถดำเนินมาตรการลงโทษ การปั่นคริปโต การใช้ข้อมูลภายใน หรือการให้ข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้อง เพราะถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เช่นเดียวกับการปั่นหุ้น
และการตรวจสอบว่ามีพฤติกรรมปั่นราคาคริปโตหรือไม่ ก.ล.ต.ระบุว่าจะใช้เวลาไม่นาน
คริปโตทั่วโลกกำลังเกิดความปั่นป่วน โดยช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บิทคอยน์ เงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ราคาดิ่งลงอย่างหนัก ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 48,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากที่เคยขึ้นสูงสุดที่ระดับ 67,566 ดอลลาร์สหรัฐ
ความผันผวนของคริปโตทั่วโลกส่งผลกระทบโดยตรงต่อคริปโตไทย เพราะนักเก็งกำไรคงหวาดผวาในราคาที่ร่วงลงรุนแรง และถ้าเล่นผิดจังหวะ อาจกลายเป็นยาจกเพียงชั่วข้ามคืน
ไม่อาจคาดเดาได้ว่า อนาคตคริปโตไทยจะก้าวต่อไปอย่างไร แต่แน่นอนว่าบรรยากาศการซื้อขายเก็งกำไรเงินดิจิทัลคงไม่คึกคักเหมือนก่อนหน้าแล้ว เพราะ ก.ล.ต.จะเข้ามากำกับดูแลการซื้อขายมากขึ้น และติดตามตรวจสอบ หากราคาเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ ซึ่งจะลดพฤติกรรมของเจ้ามือหรือขาใหญ่ที่จะปั่นราคาเหรียญ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ยังไม่มีข้อมูลหลักฐานยืนยันว่ามีการปั่นราคาคริปโตหรือไม่ เพียงแต่ราคาที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตกันเท่านั้น ซึ่งอีกไม่นาน ก.ล.ต.จะเป็นผู้ให้คำตอบว่า คริปโตมีเจ้ามือหรือขาใหญ่อยู่เบื้องหลังการลากราคา เหมือนหุ้นหรือไม่
และถ้ามี เหรียญใดที่มีการปั่น
ในบรรดาคริปโตของไทย 3 สกุลนั้น KUB COIN และ SIX COIN ออกโดยบริษัทเอกชนทั่วไป แต่ JFIN COIN ออกโดยบริษัทลูกของ บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
JFIN COIN จึงถูกจับตาเป็นพิเศษ เพราะปีนี้ หุ้นกลุ่ม JMART ร้อนแรงมากตั้งแต่ต้นปีและปลายปี JFIN COIN ก็ถูกระชากขึ้นมาอีก และขึ้นมากว่า 10,000% ภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี
แม้ยังปรักปรำไม่ได้ว่ามีใครอยู่เบื้องหลังการปั่นราคาคริปโตของไทยทั้ง 3 สกุลหรือไม่ จนกว่า ก.ล.ต.จะสรุปผลการตรวจสอบ
แต่นักเก็งกำไรคริปโตพึงสังวรไว้ คริปโตสามารถปั่นกันได้ ไม่แตกต่างจากปั่นหุ้น และในต่างประเทศเคยเกิดคดีปั่นคริปโตจนนักเก็งกำไรหมดเนื้อหมดตัวมาแล้ว