ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 ธ.ค.2564
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หลังจากนายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าไวรัสโอไมครอนก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มอุตสาหกรรม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,227.03 จุด เพิ่มขึ้น 646.95 จุด หรือ +1.87%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,591.67 จุด เพิ่มขึ้น 53.24 จุด หรือ +1.17% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,225.15 จุด เพิ่มขึ้น 139.68 จุด หรือ +0.93%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (6 ธ.ค.) โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่บรรดานักลงทุนขานรับความหวังว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจะไม่ทำให้เกิดอาการป่วยที่รุนแรง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 468.71 จุด เพิ่มขึ้น 5.94 จุด หรือ +1.28%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,865.78 จุด เพิ่มขึ้น 100.26 จุด หรือ +1.48%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,380.79 จุด เพิ่มขึ้น 210.81 จุด หรือ +1.39% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,232.28 จุด เพิ่มขึ้น 109.96 จุด หรือ +1.54%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (6 ธ.ค.) โดยปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจากหุ้นกลุ่มปลอดภัยและกลุ่มพลังงานนำตลาดปรับตัวขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,232.28 จุด เพิ่มขึ้น 109.96 จุด หรือ +1.54%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) หลังจากซาอุดีอาระเบียประกาศขึ้นราคาน้ำมันดิบที่ขายให้ลูกค้าในเอเชียและสหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 3.23 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 69.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 73.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) โดยราคาทองถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ย.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลงl 4.4 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,779.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน มี.ค. ลดลง 21.8 เซนต์ หรือ 0.97% ปิดที่ 22.263 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 10.2 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 936.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 33 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1,845.60 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้ รวมทั้งจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.23% แตะที่ 96.3361 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.49 เยน จากระดับ 112.62 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9261 ฟรังก์ จากระดับ 0.9175 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2770 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2834 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1277 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1312 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3257 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3230 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7041 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6997 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 35,227.03 จุด เพิ่มขึ้น 646.95 จุด, +1.87%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,591.67 จุด เพิ่มขึ้น 53.24 จุด, +1.17%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 15,225.15 จุด เพิ่มขึ้น 139.68 จุด, +0.93%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,232.28 จุด เพิ่มขึ้น 109.96 จุด, +1.54%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,865.78 จุด เพิ่มขึ้น 100.26 จุด, +1.48%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,380.79 จุด เพิ่มขึ้น 210.81 จุด, +1.39%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 56,747.14 จุด ลดลง 949.32 จุด, -1.65%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,547.12 จุด เพิ่มขึ้น 8.61 จุด, +0.13%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,483.45 จุด ลดลง 18.29 จุด, -1.22%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,130.74 จุด เพิ่มขึ้น 75.55 จุด, +1.07%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,116.32 จุด เพิ่มขึ้น 14.39 จุด, +0.46%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,349.38 จุด ลดลง 417.31 จุด, -1.76%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,589.31 จุด ลดลง 18.13 จุด, -0.50%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,688.21 จุด ลดลง 8.93 จุด, -0.050%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,973.25 จุด เพิ่มขึ้น 4.92 จุด, +0.17%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,927.37 จุด ลดลง 102.20 จุด, -0.36%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,245.10 จุด เพิ่มขึ้น 3.90 จุด, +0.05%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,529 จุด ลดลง 14.60 จุด, -0.19%.