ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาประกาศจุดยืน ไม่สนับสนุนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลหรือคริปโตใช้ชำระราคาสินค้าและบริการ มีผลให้เงินดิจิทัลของไทยหลายสกุลร่วงลง
เหตุผลที่แบงก์ชาติไม่สนับสนุน เพราะราคาคริปโตมีความผันผวนสูง มีความเสี่ยงจากการถูกจารกรรมทางไซเบอร์ ความเสี่ยงจากข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล หรือการถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงิน ซึ่งจะส่งผลให้ร้านค้า ผู้ประกอบการธุรกิจหรือประชาชนผู้ใช้ริการได้รับความเสียหาย
และอนาคตหากมีการนำคริปโตมาใช้ชำระราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากขึ้น จะส่งผลต่อเสถียรภาพระบบการชำระเงิน เสถียรภาพระบบการเงินของประเทศ และความเสียหายต่อสาธารณชน
ก่อนหน้านี้ มีการประกาศความร่วมมือระหว่างผู้ออกสินทรัพย์ดิจิทัลกับผู้จำหน่ายสินค้า ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้ให้บริการ โดยสามารถนำเหรียญดิจิทัลของไทยสกุลต่างๆ สามารถใช้ชำระค่าสินค้า ซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ และชำระค่าบริหารได้
ในทางปฏิบัติ ยังไม่มีการนำเงินดิจิทัลสกุลใด ใช้ชำระราคาอย่างเป็นทางการ มีแต่การประกาศความร่วมมือกันเท่านั้น แต่ราคาเงินดิจิทัลของไทยสกุลต่างๆ ขยับขึ้นรับข่าว เพราะนักเก็งกำไรแห่ไล่ซื้อเหรียญ
การเงินดิจิทัลใช้จับจ่ายสินค้าและบริการ เช่นเดียวกับการใช้บัตรเครดิต หรือเงินสดนั้นฟังดูเหมือนง่าย แต่ในความเป็นจริงเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากซับซ้อน
เพราะเงินดิจิทัลเคลื่อนไหวตลอดเวลา ราคาขึ้นลงหวือหวา ในช่วงที่ตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ และระหว่างรอชำระ ราคาคริปโตอาจดิ่งลงรุนแรงก็อาจเกิดปัญหาตามมาได้ โดยมูลค่าคริปโตไม่เพียงพอชำระค่าสินค้า หรือผู้ถือคริปโตอาจทำใจไม่ได้ที่จะปล่อยคริปโตในราคาที่ด้อยค่าลงมาก
ในทางกลับกัน ผู้จำหน่ายสินค้าหรือบริการ รวมทั้งเจ้าของโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดให้ใช้คริปโตชำระค่าสินค้าและบริการได้ แต่เมื่อรับชำระมาแล้ว ราคาคริปโตเกิดร่วงลงแรงๆ ผู้จำหน่ายสินค้าและบริการ รวมทั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่เจ๊งกันกันหมดหรือ
เพราะผู้ประกอบการธุรกิจต้องการเพียงหาส่วนต่างกำไรจากสินค้าและบริการเท่านั้น ไม่ได้หวังรวยจากคริปโต แต่ความผันผวนของราคาคริปโตอาจนำหายนะไปสู่ธุรกิจ
แบงก์ชาติคงเห็นถึงปัญหามากมายที่จะตามมา หากปล่อยให้นำคริปโตใช้ชำระค่าสินค้าบริการ จึงออกมาตอกย้ำจุดยืนไม่สนับสนุนธุรกรรมประเภทนี้ และอยู่ระหว่างหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อพิจารณารูปแบบการกำกับดูแล การให้บริการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยคริปโต
ต้องรอดูกันว่า การกำกับดูแลการใช้คริปโตชำระค่าสินค้าและบริการจะเป็นไปในรูปแบบไหน จะควบคุมได้เพียงใด ถึงขั้นต้องห้ามการทำธุรกรรม เช่นเดียวกับอินโดนีเซียและเวียดนามหรือไม่
การเก็งกำไรเงินดิจิทัล ไม่ว่าสกุลไทยหรือเงินดิจิทัลยอดนิยมของโลก แม้หลายประเทศไม่สนับสนุน แต่ก็ปิดกั้นไม่อยู่ จึงต้องเปิดให้ซื้อขายเก็งกำไรกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แม้จะมีความกังวลในวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นก็ตาม
ถ้าไม่สร้างสีสันให้คริปโต ไม่เติมธุรกรรมบางอย่างใส่เข้าไป ไม่พัฒนาให้เป็นสินทรัพย์ที่ใช้ทดแทนเงินสดได้ คงไม่มีปัจจัยปลุกเร้าการเก็งกำไร
แต่หากใช้ชำระค่าสินค้าและบริการไม่ได้ ราคาคริปโตสกุลต่างๆ อาจปักหัวลงกันยกแผง
แบงก์ชาติส่งสัญญาณเตือนมาแล้ว นักเก็งกำไร COIN จึงต้องระมัดระวัง อย่าเพิ่งฝันเฟื่องเรื่องคริปโตจนเลยเถิด