"โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย)" ผนึก "เวิล์ด เมดดิคัล ทัวริซึม อัลไลแอนซ์ และเค ที ดี เอ็ม" บริษัทในกลุ่มโอเชี่ยน คอมเมิรซ (OCEAN) เซ็น MOU ร่วมศึกษาวิจัยกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และเพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์ หวังสร้าง Value Chain ด้านผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรที่ใช้สารสกัดจากกัญชาเพื่อใช้ในเชิงการแพทย์
ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วม (MOU) ในการศึกษาวิจัยกัญชาพัฒนาสูตรตำรับเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในอนาคตให้บริษัท เวิลด์ เมดดิคัล ทัวริซึม อัลไลแอนซ์ จำกัด (WMTA) ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรจากกัญชาใช้ในเชิงการแพทย์ ผ่านเครือข่ายคลินิกแพทย์แผนไทย และบริษัท เค ที ดี เอ็ม จำกัด (KTDM) บริษัทในเครือ บมจ.โอเชี่ยน คอมเมิรซ (OCEAN) เจ้าของเครื่องสกัดสารกัญชาใช้เป็นวัตถุดิบ เพื่อสร้าง Value Chain หรือห่วงโซ่คุณค่าให้แก่อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรไทย โดยนำสารสกัดที่ได้จากกัญชาและกัญชงมาใช้ประโยชน์ในเชิงการแพทย์ รวมถึงต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าต่างๆ เช่น อาหารเสริม และเครื่องสำอาง เป็นต้น
ทั้งนี้ JP ได้นำความเชี่ยวชาญในการเป็นผู้นำด้านการวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ด้วยทีมเภสัชกรแพทย์แผนไทยมาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ และใช้ความสามารถด้านการผลิตของโรงงานที่จังหวัดลำพูน ซึ่งมีมาตรฐานการผลิตยาแผนโบราณ (GMP PIC/s) จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำสารสกัดจากกัญชาที่ได้มาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ ภายใต้สูตรตำรับผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรไทย เพื่อใช้เชิงการแพทย์ภายใต้แบรนด์ลูกค้า (OEM) ได้แก่ น้ำมันกัญชาทางการแพทย์ตำรับเมตตาโอสถและตำรับการุณย์โอสถ ให้แก่ บจก.เวิลด์ เมดดิคัล ทัวริซึม อัลไลแอนซ์ ซึ่งเป็นผู้บริหารระบบเครือข่ายคลินิกทางการแพทย์แผนไทยทั่วประเทศ เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยภายใต้การดูแลของแพทย์ รวมถึงจะขยายไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรอีก 19 ตำรับ และยังครอบคลุมถึงความร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในเชิงพาณิชย์ โดย JP จะทำหน้าที่ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กับทาง อย. เพื่อผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของลูกค้าอีกด้วย
นอกจากนี้ JP ยังได้ลงทุนขยายฐานการผลิตของโรงงานที่จังหวัดลำพูน เพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัดจากกัญชา กัญชง และ/หรือใบกระท่อม เพื่อนำไปใช้ทางการแพทย์ รวมถึงการต่อยอดไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งในรูปแบบของการรับจ้างผลิตสินค้า หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง ภายใต้งบลงทุน 160 ล้านบาท ที่เป็นงบมาจากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ที่ผ่านมา เพื่อเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจรองรับแนวโน้มความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ยาหรืออาหารเสริมที่มีสารสกัดกัญชา กัญชง และ/หรือใบกระท่อม เพื่อใช้รักษาโรค รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในอนาคต ภายหลังจากที่โรงงานได้รับใบอนุญาตการผลิตจากหน่วยงานภาครัฐ
“ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือในเชิง Strategic Partner ที่จะร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรที่ใช้สารสกัดจากกัญชา กัญชง เพื่อใช้เชิงการแพทย์ ที่สร้างความเข้มแข็งให้แก่ Value Chain ครอบคลุมตั้งแต่การนำสารสกัด กัญชงที่มีมาตรฐานระดับสูง มาใช้ผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากกัญชาภายใต้แบรนด์ลูกค้า เพื่อนำไปใช้ในเชิงการแพทย์รักษาผู้ป่วยผ่านคลินิกทางการแพทย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของ WMTA เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งรักษาผู้ป่วย และพร้อมร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย” ดร.สิทธิชัย กล่าว