หุ้นไทยปิดตลาดบวก +22.12 จุด โบรก ฯ ชี้จากเทคนิคเคิลรีบาวด์ หลังตลาดโดยรวมตอบรับเรื่องไวรัสโควิด -19 สายพันธุ์ ”โอไมครอน” ไปแล้วในระดับหนึ่ง แนะจับตาประชุมกลุ่ม OPEC+ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ และ เพดานหนี้ของสหรัฐฯ หลังคลายกังวลเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ ประเมินแนวรับที่ 1,580 จุด และแนวต้านที่ 1,600 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันพุธที่ 1 ธันวาคม 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +22.12 จุด หรือ +1.41% โดยปิดที่ 1,590.81 จุด มุลค่าการซื้อขายกว่า 93,864.33 ล้านบาท โดยวันนี้ดัชนี SET INDEX เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน ซึ่งปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 1,591.86 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,563.04 จุด
ขณะที่ส่วนหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 1,088 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 501 หลักทรัพย์ และลดลงจำนวน 659 หลักทรัพย์
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า 1,582.11 ล้านบาท และ นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 617.07 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,730.92 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -468.26 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 6,353.56 ล้านบาท ปิดที่ 135.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
2.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,484.21 ล้านบาท ปิดที่ 60.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
3.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,414.50 ล้านบาท ปิดที่ 211.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
4.SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,396.50 ล้านบาท ปิดที่ 126.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,344.00 ล้านบาท ปิดที่ 36.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 211.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาทหรือ 2.43%
2.PTTEP ปิดที่ 118.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาทหรือ 3.96%
3.SCB ปิดที่ 126.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาทหรือ 3.28%
4.SCC ปิดที่ 376.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 1.08%
5.KBANK ปิดที่ 135.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 2.27%
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 442.00 บาทลดลง 4.00 บาท หรือ 0.90 %
2.EA ปิดที่ 80.25 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 2.13 %
3.KCE ปิดที่ 90.25 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 1.90 %
4.HANA ปิดที่ 92.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.60 %
5.STGT ปิดที่ 29.25 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 2.50 %
ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,168.44 จุด เพิ่มขึ้น 29.19 จุด หรือ 1.36% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 947.82 จุด เพิ่มขึ้น 12.74 จุด หรือ 1.36% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 561.06 จุด เพิ่มขึ้น 9.66 จุด หรือ 1.75%
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1% เหมือนกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่บวกได้กว่า 200 จุด
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเรารับ Sentiment จากต่างประเทศหลังจากที่ได้ตอบรับเรื่องไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนไปแล้วในระดับหนึ่ง หลังตลาดฯปรับตัวลงไปมากแล้ว ดังนั้นจึงเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ขึ้นบ้าง จากแรงหนุนหุ้นในกลุ่มเปิดเมืองที่ดีดตัวขึ้นมาหลังจากที่ทรุดตัวแรงในช่วง 3 วันที่ผ่านมา และทางสหรัฐฯ ยืนยันจะไม่ล็อกดาวน์ด้วยแม้จะต้องเผชิญกับไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ และให้ติดตามเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.) มองว่าตลาด ฯ มีโอกาสที่จะกลับมาบวกต่อได้หลังจากที่คลายความกังวลเรื่องไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน โดยประเมินแนวรับที่ 1,580 จุด และแนวต้านที่ 1,600 จุด