"เดอะมอลล์ กรุ๊ป" ผนึกกำลัง "Bitkub" จัดตั้งบริษัทร่วม "บิทคับ เอ็ม" ถือครองหุ้นร่วมกันในอัตราส่วน 50:50 สร้างศูนย์รวมชุมชนคริปโต "บิทคับ เอ็ม โซเชียล" ดิจิทัลคอมมูนิตี้แห่งแรกของเมืองไทย พร้อมเปิดให้นำ 7 เหรียญคริปโตฯ ไปแลกสินค้า, หรือบัตรกำนัลได้อีกด้วย
บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ฯ และ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ปฯ แถลงข่าวร่วมทุนจัดตั้ง "บริษัท บิทคับ เอ็ม จำกัด" (Bitkub M. Company Limited) ในอัตราส่วนการถือครองหุ้น 50:50 เพื่อร่วมลงทุนและบริหาร บิทคับ เอ็ม โซเชียล ( BITKUB M SOCIAL) ซึ่งเป็นดิจิทัลคอมมูนิตี้ (Digital Communiy) แห่งแรกของประเทศในการเป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนด้านความรู้ การจัดสัมมนาและการประชุม ทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลสำหรับสตาร์ทอัพ (Startup) และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Entrepreneur Economy) อีกทั้งเป็นแหล่งพบปะของนักลงทุนที่สนใจในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ตลอดจนเป็นศูนย์การเทรดและการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Trading & Exchange) รวมทั้งมี NFT Gallery & Gaming และนำเข้าสู่โลกของ METAVERSE ในอนาคต โดย BITKUB M SOCIAL จะเป็นโมเดลสำคัญซึ่งจะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมภาคธุรกิจ การลงทุนทางด้านจิทัล สร้างงานสร้างอาชีพ เป็นการกระจายรายได้ และลดช่องว่างทางสังคม
นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ในการเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ หลังเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และการถดถอยทางเศรษฐกิจทั่วโลก คือการผนึกความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยยุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือการมุ่งเน้นไปที่เศรษฐกิจ ยุค 5.0 และเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นวาระเร่งด่วนได้แก่ โลกยุคใหม่ไร้พรมแดน (GLOBALIZATION) การปรับตัวเข้าสู่ยุดดิจิทัล (DIGITALIZATION) การท่องเที่ยวและการบริการ (TOURISM)
ขณะที่นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา นักธุรกิจ ผู้ก่อตั้ง บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กลุ่มธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน และดำเนินการตลาดซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี ผ่าน บิทคับ ออนไลน์ ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในไทย กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า
"การเกิดขึ้นของบล็อกเชนที่เป็นเทคโนโลยีเบื้องหลังของคริปโทเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัล เปรียบเสมือนการเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ตเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ที่ทำให้เกิดธุรกิจรูปแบบใหม่ขึ้นรวมถึงสร้างภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจใหม่ นอกจากบล็อกเชนจะมาเปลี่ยนแปลงวงการการเงินแล้วยังสามารถช่วยยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้แก่วงการอื่น ๆ ได้ เช่น ในวงการศิลปะและเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้มีการทำ NFT (Non-Fungible Token) เพื่อการขาย ประมูล งานศิลปะและงานออกแบบทำให้เป็นช่องทางใหม่ในการสร้างรายได้ของเหล่าศิลปินและนักออกแบบจากความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งนอกจากนั้นแล้ว NFT ยังเข้ามาเปลี่ยนวงการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ อย่างที่ทางกลุ่มบิทคับ ได้ร่วมพัฒนา Fans Token ร่วมกับเหล่ายูทูเบอร์ชั้นนำที่มีผู้ติดตามรวมกว่า 50 ล้านบัญชี ปรากฏการณ์ Miss Universe Thailand NFT ร่วมกับทาง TPN GLOBAL ซึ่งถือได้ว่าเป็น Beauty Pageant NFT Collection ครั้งแรกของโลกที่ได้รับการตอบรับเกินความคาดหมาย เนื่องจากเป็นการสร้างเอนเกจเม้นท์ระหว่างแฟนคลับและตัวศิลปีนได้เป็นอย่างดี"
ทั้งนี้การนำประโยชน์ของเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ร่วมกับวงการค้าปลีกและไลฟ์สไตล์ โดยการร่วมมือกับทางเดอะ มอลล์ กรุ๊ป ในครั้งนี้ถือว่าจะเป็นอีกการพลิกโฉมครั้งสำคัญในการสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้ง ไลฟ์สไตล์ เป็นแห่งแรก ๆ ของโลก เนื่องจากจะมีการผสานทั้งการใช้กระเป๋าคริปโตเคอร์เรนซีในการแลกเปลี่ยนสินค้าได้สะดวกสบายมากขึ้น และการให้โปรโมชั่น สิทธิพิเศษผ่านกลไกของ NFT (Non-Fungible Token) รวมถึงการนำ Gamifcation มาเพิ่ม Foot trafic ให้กับศูนย์การค้า เช่นการแจก NFI Card ที่มีรางวัลพิเศษเฉพาะ ผู้ที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยที่ศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าเท่านั้นจึงจะได้รางวัลพิเศษนั้นไป ซึ่งของรางวัลบางอย่างอาจถือเป็นประสบการณ์ที่ถึงแม้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ เป็นการเชื่อมประสบการณ์ที่ดีระหว่างแบรนด์และ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ช่วยเพิ่มยอดขายหน้าร้านและสร้างสิทธิประโยชน์ระหว่างออนไลน์และออฟไลน์
นอกจากนี้กระแสของโลกที่มีกลุ่มผู้มั่งคั่งและมีกำลังจับจ่ายใช้สอยกลุ่มใหม่ (New Wealth) ที่มีรายได้จากแวดวงเทคโนโลยีกลุ่มใหม่ๆ เช่นบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล หรือผู้ที่สามารถทำงานให้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ได้จากทั่วทุกมุมโลก โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้สามารถทำงานที่ไหนก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าสำนักงาน (Digital Nomad) หรือกลุ่มที่เป็นคนๆ เดียวแต่มีหลายทักษะและสามารถทำงานให้หลากหลายบริษัทในขณะเดียวกัน (Nano Entrerpreneur) คนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อมากและนิยมการพักผ่อนในต่างประเทศแบบท่องเที่ยวพักผ่อนไปด้วยทำงานไปด้วย (Workation) และมีการอาศัยในประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นระยะเวลายาวนานกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป (Longer Term Stay) โดยหากประเทศของเรามีโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี (Technology Infastucture) ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ที่สามารถรองรับความต้องการและสร้างความสะดวกแก่กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ได้น่าจะช่วยฟื้นฟูและเพิ่มมูลค่การท่องเที่ยวของประเทศไทยหลังโควิคได้อีกทางหนึ่ง"
ดังนั้น ทางบิทคับและเดอะมอลล์กรุ๊ปจึงตั้งใจสร้างคอมมูนิตี้แห่งการเรียนรู้และแบ่งปัน "บิทคับ เอ็ม โซเชียล" (Bitkub M Social) นอกจากจะเป็นที่พบปะของบรรดานักลงทุนและคนดิจิทัลแล้วยังเป็นแหล่งอบรม ให้ความรู้ สามารถจัดสัมมนากลุ่มขนาดเล็กได้ รวมถึงยังเป็นแหล่งบ่มเพาะสตาร์ทอัพด้วยการจัดโปรแกรม แอคเซเลอเรเตอร์ (Accelerator) อินคิวเบเตอร์ (Incubator) จากทาง บิทคับ อะคาเดมี (Bikub Academy) และ บิทคับ เวนเจอร์ส (Bikub Ventures) อีกด้วย ทั้งหมดนี้จะเป็นสร้างอีโคซิสเต็มทางเศรษฐกิจที่แข็งแรงและยั่งยืน"
ขณะที่นางสาววรลักษณ์ ตุลากรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เสริมว่า BITKUB M SOCIAL จะเป็นดิจิทัล คอมมูนิดี้ ของผู้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Community) แห่งแรกของประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร ณ บริเวณชั้น 8-9 โซนฮีลิกซ์ ควอเทียร์ อาคาร A ดิ เอ็มควอเทียร์ โดย BITKUB M SOCIAL ประกอบไปด้วยศูนย์การเรียนรู้ อบรม สัมมนา ห้องประชุม เอ็นเอฟทีแกลเลอรี่ (NFT Gallery) ร้านค้า คาเฟ่ และบาร์ พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยตอบโจทย์นักลงทุนและผู้ที่สนใจในสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ พบปะ แลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้สำหรับคนรุ่นใหม่ ทั้งในเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล, เศรษฐกิจ และไลฟ์สไตล์ เป็นต้น
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครสมาชิก BITKUB M SOCIAL MEMBERSHIP โดยสมาชิกแบ่งออกเป็น
3 ประเภท ได้แก่
BITKUB M SOCIAL LUNAR ค่าสมาชิก 12,000 บาท ต่อปี
BITKUB M SOCIAL ZIRCON ค่าสมาชิก 20,000 บาท ต่อปี
BITKUB M SOCIAL EMERALD ค่าสมาชิก 50,000 บาท ต่อปี (เฉพาะการเรียนเชิญเท่านั้น)
โดยสมาชิกคนสำคัญจะได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากมายก่อนใคร อาทิ รับเทรดดิ้งเครคิตสูงสุด 20,000 บาท, เข้าร่วมคอร์สสัมนาการลงทุน พิเศษเฉพาะสมาชิกบัตรเท่านั้น, สิทธิ์รับรางวัลพิเศษ เช่น Token หรือ NFT Airdrop เมื่อเข้าเงื่อนไขของร้านค้า รับสิทธิ์การเข้าใช้ Bikub M Social Lounge, รับส่วนลดพิเศษมากมายที่ Blockchain Store และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ รับส่วนลดสูงสุด 10% สำหรับการซื้อสินค้าราคาปกติในห้างๆ เครือเคอะมอลล์ กรุ๊ป และส่วนลด 5% ในกูร์เมด์ มาร์เก็ต พร้อมทั้ง ดูปองส่วนลด บริการพิเศษมากมาย รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท/ท่าน จากห้างฯ และศูนย์การค้า ในเครื่อเดอะมอลล์ กรุ๊ป ติ เอ็มโพเรียม และดิ เอ็มควอเทียร์ (ยกเว้น เดอะ มอลล์ รามคำแหง และเดอะมอลล์ โคราช)
ทั้งนี้เพื่อเป็นการฉลองเทศกาลแห่งความสุข เปิดมิติใหม่แห่งการช้อปปิ้งสามารถนำสินทรัพย์ดิจิทัล คริปโตเคอร์เรนซี 7 เหรียญ ได้แก่ BITCOIN, TETHER, ETHEREUM, STELLAR, XRP, BITKUB COIN และ JFIN COIN แลกเป็นสินค้า หรือบัตรกำนัล ทั้งห้างและศูนย์ฯ โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2564 - 28 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ พิเศษ สมาชิก M CARD ใช้สินทรัพย์ดิจิทัล มูลค่า 100 บาท แลกรับ 800 M POINT