หุ้นไทยปิดร่วง 20.92 จุด ปรับพอร์ตกลุ่ม SET50-Reopening วิตกโควิดสายพันธุ์ใหม่ สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ หากดัชนีฯยืนได้แถว 1,690-1,580 จุด ก็มีโอกาสเกิดเทคนิเคิลรีบาวด์ได้
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงรับ Sentiment ลบต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน จากความกังวลไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่"โอไมครอน"ทำให้เห็นว่ามีการ Cutloss ตลาดอนุพันธ์ ซึ่งทำให้หุ้นในกลุ่ม SET50 ปรับตัวลงมากเป็นหลักจาก Panic Sell ปรับพอร์ต โดยเฉพาะหุ้นที่ขึ้นไปมากอย่างหุ้นในกลุ่ม Re-opening
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์หากดัชนีฯยืนได้ก็มีโอกาสรีบาวด์ หลังจากลงมาใกล้เส้น 200 วันแถว 1,580 จุด หรือในช่วง 1,580-1,590 จุด น่าจะเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ได้
ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบ ขณะที่ตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้รีบาวด์ขึ้นมาแล้ว หากคืนนี้ตลาดสหรัฐฯปรับตัวขึ้นได้ก็จะทำให้ Sentiment ตลาดเอเชียในวันพรุ่งนี้ฟื้นตัวกลับมาได้ ทั้งนี้ ไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่"โอไมครอน"ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มมาก แต่หลายฝ่ายระบุว่าไม่ได้รุนแรงมากกว่าตัวเดิม หากเป็นจริงก็จะเป็น Sentiment บวกให้ตลาดฯ
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,589.69 จุด ลดลง 20.92 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.30% มูลค่าการซื้อขาย 115,806.02 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.) นายสุโชติ กล่าวว่า หากดัชนีฯยืนได้แถว 1,690-1,580 จุด ก็มีโอกาสเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ได้ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,600-1,620 จุด
พร้อมให้ติดตามสถานการณ์ความคืบหน้าของสายพันธุ์"โอไมครอน" และการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีผลต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน อีกทั้งติดตามภาครัฐฯจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีนี้หรือไม่
"ตอนนี้พวกเฮจฟันด์ในตลาดฟิวเจอร์สมีมุมมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปราว ส.ค.-ก.ย.65 จากเดิมที่มองกันว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีหน้า ตอนนี้พอมีโควิดสายพันธุ์ใหม่ก็ทำให้มองว่าอาจไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วแล้ว"นายสุโชติ กล่าว