นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยในงานสัมมนาหัวข้อเรื่อง "ตลาดหุ้นกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 65" โดยระบุว่า ตลาดทุนจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างเต็มที่และรวดเร็วในปีหน้า
เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจเติบโตแบบ K Shape มีทั้งภาคอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัว และบางอุตสาหกรรมก็ยังไม่ฟื้นตัว โดยเศรษฐกิจฟื้นตัว ได้แก่ ภาคเทคโนโลยี ภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรและอาหาร เนื่องจากมีสัดส่วนการส่งออกคอ่นข้างสูง ส่วนอุตสาหกรรมที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ได้แก่ ภาคการเงิน ธนาคารพาณิชย์ ประกัน อสังหาริมทรัพย์ สินค้าอุปโภคบริโภค ภาคทรัพยากร ซึ่งกลุ่มนี้ขึ้นอยู่กับการบริโภคในประเทศที่ยังไม่ได้ฟื้นตัวมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น กลุ่มโรงแรม กลุ่มท่องเที่ยว แต่ก็คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ในปีหน้าหลังจากมีการฉีดวัคซีนได้มากขึ้น
นอกจากนี้ เศรษฐกิจที่เป็นกลุ่มสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีจะเริ่มกลับมา ซึ่งอตลท.และพันธมิตร 10 รายร่วมกับเพื่อให้สตาร์อัพและเอสเอ็มอี เปิดช่อง LIVE Platform เพื่อสนับสนุนเข้าถึงตลาดทุน โดย ตลท.และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำลังทำงานร่วมกันเพื่อเป็นแหล่งระดมทุนให้กับสตาร์อัพและเอสเอ็มอีในต้นปี 65
นายภากร กล่าวอีกว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหญ่ที่มีการทำธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การเติบโตที่ยั่งยืน และมีบรรษัทภิบาล ในปี 64 ได้เข้าดัชนี DJSI 24 บริษัท ซึ่งสูงสุดในอาเซียนต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ,ติดอันดับ MSCI ESG จำนวน 40 บริษัท และ ดัชนี FTSE4Good 40 บริษัท ซึ่งจะทำให้เป็นจุดขายในการระดมทุนในตลาดต่างประเทศได้
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีนักลงทุนที่ต้องการเข้าลงทุนบริษัทที่มี ESG ที่ดี โดยมีกองทุนกว่า 50 กอง มีสินทรัพย์รวม 5.4 หมื่นล้านบาท มาลงทุนในบริษัทที่ดำเนินกิจการ sustainable ได้ดี
กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยถูกใช้เป็นแหล่งระดมทุนมากขึ้น ดังเช่นในปี 63 ที่มีการระดมทุนตลาดแรก (IPO) 1.6 แสนล้านบาท ถือเป็นอันดับ 8 ของโลก อันดับ 4 ในเอเชีย และอันดับ 1 ในอาเซียน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความสามารถระดมทุนของไทย ส่วนในงวด 9 เดือนในปี 64 ระดมทุนได้มากกว่า 1.2 แสนล้านบาท
ส่วนมูลค่าระดมทุนในตลาดรอง จำนวน 9.3 หมื่นล้านบาทในปี 63 และ มากกว่า 8.4 หมื่นล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 64 ทั้งนี้ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของตลาดหุ้นไทยเกือบ 20 ล้านล้านบาท หรือเทียบกับ 1.2 เท่าของ GDP
นอกจากนี้จะมีการระดมทุนจากตราสารหนี้ภาครัฐ 11 ล้านล้านบาท ตราสารหนี้ภาคเอกชน 4 ล้านล้านบาท และสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ 18 ล้านล้านบาท
สำหรับช่องทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในปี 63 มีจำนวนบัญชีนักลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า 7 แสนบัญชี และเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.4 ล้านบัญชีในงวด 9 เดือนแรกของปี 64
ขณะที่สภาพคล่องตลาดหุ้นไทยในปี 64 ปัจจุบันมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยมากกว่า 9.5 หมื่นล้านบาท/วัน เทียบกับปี 63 ที่มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 6.7 หมื่นล้านบาท/วัน โดยตลาดหุ้นไทยถือว่าสูงที่สุดในอาเซียนมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเติบโตขึ้น 3 เท่า