"บิสซิเนสอะไลเม้นท์ " ใจป้ำอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 100 ล้านบาท เตรียมกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 8 ธ.ค.64 พร้อมจ่ายเงินสดในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ ผู้บริหารเผยโค้งสุดท้ายปีนี้ อาจมีข่าวดีประมูลงานอีกราว 800 ล้านบาท สนับสนุนให้ผลงานปี 64 เติบโตตามเป้าหมาย
นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท (ราคาพาร์ 0.50 บาท) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 100 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา 25.18% ของกำไรสุทธิ โดยเป็นการจ่ายจากผลการดำเนินงานสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 ตามงบการเงินเฉพาะกิจการบริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวมหลังภาษี เป็นเงิน 397.08 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ จะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันพุธที่ 8 ธันวาคม 2564 และกำหนดจ่ายปันผลในวันอังคารที่21 ธันวาคม 2564
"บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจ และสนับสนุนบริษัทฯ มาโดยตลอด ซึ่งบริษัทฯ จะยังคงรักษาความสามารถในการดำเนินธุรกิจให้มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยยังคงสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอ สำหรับผลงานในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงมีการเติบโตได้ดี เนื่องจากมีงานในมือสามารถรองรับการรับรู้รายได้ในระยะยาว 1-2 ปี ดังนั้นทำให้มั่นใจว่าภาพรวมของผลการดำเนินงานในปี 2564 จะยังสามารถทำสถิติสูงสุดได้เป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง" นายสมพงษ์กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ยังคงมีทิศทางที่ดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯ แย้มรอข่าวงานประมูลเพิ่มอีกราว 800 ล้านบาท และคาดว่าจะมีโอกาสได้งานสูง เนื่องจากบริษัทฯ มีศักยภาพ และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านทำให้มีคู่แข่งไม่มาก ซึ่งผลงานที่ผ่านมาก็น่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯ มีโอกาสได้งานมากขึ้นอีกด้วย
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง แคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 65% นั้น ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเปิดแผนก "กัญชาทางการแพทย์" เพื่อต้องการจะใช้ต่อยอดรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งจากวิธีการฉายรังสี และเคมีบำบัด ควบคู่กับการรักษามาตรฐาน รวมทั้งจะเร่งผลักดันให้เป็นศูนย์กลาง เพื่อพัฒนาด้านการรักษาผู้ป่วย หวังสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
อนึ่งภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 201 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,360% จากงวดเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิเท่ากับ 5.8 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,418 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,518% จากงวดเดียวกันปีก่อนตามงบการเงินรวม
สำหรับงวด 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 395 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,768% จากงวดเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิเท่ากับ 21 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 2,597 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 509 % จากงวดเดียวกันปีก่อนตามงบการเงินรวม
