บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ประเมินภาพรวมธุรกิจไตรมาส 4/2564 สดใส เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภคฟื้นชัดเจน หนุนยอดขายคึกคัก โดยเฉพาะสินค้าใหม่ “Jele Chewy” ผลตอบรับดีกว่าคาด เร่งขยายไลน์ผลิต เตรียมร่วมมือพันธมิตรรายใหญ่ชื่อดังระดับโลกพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน พร้อมมีแผนวางจำหน่ายโปรดักส์ใหม่ที่เป็นสินค้านวัตกรรม จากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับกัญชา-กัญชง ในเดือนธ.ค.นี้ ฟากผู้บริหาร "วิโรจน์ วชิรเดชกุล" ระบุไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ผลงานมีลุ้นทำสถิติสูงสุดของรอบปี 2564 จากปัจจัยหนุนเพียบ ทั้งเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่รุกขยายสู่ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย เปิดเผยว่าภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส4/2564 มีแนวโน้มยอดขายจะเติบโตได้ดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากสถานการณ์โดยรวมหลังจากนโยบายเปิดประเทศ เปิดสถานศึกษา สนับสนุนให้กำลังซื้อฟื้นตัวดีขึ้น ดันกำลังการผลิตสินค้าโดยรวมของปัจจุบันขยับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 70 ของกำลังการผลิตรวม
รวมถึงล่าสุด SNNP ได้วางจำหน่ายสินค้าใหม่เป็น “Jele Chewy” (เจเล่ ชิววี่) เยลลี่เคี้ยวหนึบ เทรนด์ใหม่ผสมวิตามินซีสูง และ 0% แคลอรี ผลตอบรับออกมาดีเกินคาด ทำให้บริษัทฯต้องขยายกำลังการผลิตเพิ่ม รวมทั้งมีแผนจะร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรรายใหญ่ ที่จะพัฒนาสินค้าร่วมกันภายใต้แบรนด์สินค้าของ SNNP และแบรนด์สินค้าระดับโลก (Brand Collaboration) โดยจะเปิดตัวในเร็วๆนี้
นอกจากนี้อยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมจะเปิดตัวโปรดักส์ใหม่ที่เป็นสินค้านวัตกรรม จากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับกัญชา-กัญชง โดยคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายสินค้าตัวแรกได้ประมาณเดือนธันวาคมนี้ และในปีหน้าจะเริ่มมีสินค้าที่เน้นเรื่องการให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ไตรมาส 4/2564 น่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ทั้งยอดขายและกำไร เพราะมีปัจจัยสนับสนุนให้ยอดขายทั้งในประเทศ และต่างประเทศเติบโตได้อย่างโดดเด่น เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ และปรับตัวอยู่ร่วมกับสถานการณ์COVID-19 ได้ดีขึ้น ขณะที่บริษัทฯ เดินหน้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์เจเล่ และเบนโตะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลตอบรับก็ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง"
อนึ่ง ผลการดำเนินงานสำหรับงวดไตรมาส3/2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 61.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.1% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 50.9 ล้านบาท ในขณะที่งวด 9 เดือนของปี 2564 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 316.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 454.8% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 57.0 ล้านบาท ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากการที่ยอดขายในประเทศยังขยายตัวได้ดี และสามารถเติบโตได้มากกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรม แม้ว่าไตรมาส 3/64 ต้องเผชิญกับสถานการณ์ COVID-19