สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น เปิดงบไตรมาส 3 รายได้แตะ 9,777 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110% กวาดกำไรสุทธิ 915 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129.9% จากปีก่อน รับรู้ยอดขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากธุรกิจในประเทศเวียดนาม รวมถึงงานโครงการภาครัฐและเอกชนยังเติบโตได้ดี อีกทั้งสามารถควบคุมต้นทุนวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 15-20% ทำสถิตินิวไฮต่อเนื่อง
นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2564 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564) บริษัทฯ มีรายได้หลัก 9,777 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,122 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 110% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 4,655 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 915 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 517 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 129.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 398 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ 913 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 518 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 131% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ 395 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีรายได้หลัก 19,685 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,768 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 65.2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 11,917 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,884 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 793 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 72.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,091 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ 1,875 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 792 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 73.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ 1,083 ล้านบาท
"ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากการรับรู้ยอดขายที่ปรับตัวสูงขึ้นจากผลประกอบการของธุรกิจที่ประเทศเวียดนาม ที่มีอัตราการเติบโตที่ดีทั้งในส่วนรายได้ และกำไร ประกอบกับงานจากโครงการภาครัฐและเอกชนที่ดำเนินการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องตามแผนงานและกำหนดการที่วางไว้ ประกอบกับกลยุทธ์การมุ่งเน้นสินค้าสำเร็จรูปของกลุ่ม High Margin เป็นหลัก"
เขากล่าวอีกว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2564 มั่นใจแนวโน้มเป้าหมายรายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 15-20% และมั่นใจว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง โดยจะมาจากรายได้หลักคือ ธุรกิจสายไฟฟ้า และสายเคเบิล มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีไปพร้อมกับอุตสาหกรรมไฟฟ้าทั้งใน และต่างประเทศ และยังคงมุ่งเน้นการขายสินค้าในกลุ่มที่มีความสามารถในการทำกำไรได้สูง (High Margin) ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท โดยเป็นงานทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่อง และเป็นการรองรับการเติบโตในอนาคต