ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง เผยผลประกอบการไตรมาส 3 รายได้รวม 599.62 ล้านบาท กำไรสุทธิ 11.47 ล้านบาท โต 57.80% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มองแนวโน้มไตรมาส 4/64 ส่งสัญญาณดีขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ เร่งก่อสร้างและส่งมอบงานเดิม Backlog แตะที่ 4,809 ล้านบาท พร้อมคว้างานใหม่รอเซ็นสัญญาอีก 3 โครงการ รวมมูลค่า 2,008 ล้านบาท
นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 3/64 บริษัทมีรายได้รวม 599.62 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 672.22 ล้านบาท จำนวน 72.60 ล้านบาท หรือลดลง 10.80% และมีกำไรสุทธิ 11.47 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 67.25 ล้านบาท จำนวน 55.78 ล้านบาท หรือลดลง 82.94% แต่เมื่อเทียบกับผลประกอบการไตรมาส 2/64 ที่มีรายได้รวม 599.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 0.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.03% และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 4.2 ล้านบาท จากไตรมาส 2/64 ที่มีกำไรสุทธิ 7.27 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 57.80%
ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 1,934.60 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,111.58 ล้านบาท จำนวน 176.98 ล้านบาท หรือลดลง 8.38% และมีกำไรสุทธิ 55.99 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 204.57 ล้านบาท จำนวน 148.58 ล้านบาท หรือลดลง 72.63%
สาเหตุที่ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3/64 ปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการภาครัฐในการควบคุมสถานการณ์ เช่น การปิดแคมป์ก่อสร้าง การจำกัดแรงงานในพื้นที่ก่อสร้าง และมาตรการ Bubble and seal รวมไปถึงการเกิดอุทกภัยทั้งในพื้นที่ต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ ส่งผลให้การดำเนินงานและการส่งมอบงานในบางโครงการเป็นไปด้วยความล่าช้ากว่ากำหนด
“แม้ผลประกอบการไตรมาส 3/64 จะมีการปรับตัวของรายได้รวมที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มองว่าจะเป็นเพียงการชะลอตัวของการรับรู้รายได้ แต่อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนมีการปรับตัวดีขึ้นจากการรับรู้รายได้ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงปลายไตรมาส 3/64 ประกอบกับบริษัทยังมีปริมาณงานในมือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่จะช่วยผลักดัน Backlog ให้เติบโตตามเป้าหมายที่ 7,000 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปรับการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนเพื่อให้สามารถส่งมอบงานทันเวลา นอกจากนี้ บริษัทยังมีการเตรียมความพร้อมในด้านบุคลากร เครื่องมือ และวัสดุอุปกรณ์เพื่อรองรับงานที่กำลังจะเข้ามา ทั้งในส่วนภาครัฐและเอกชน เมื่อสถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น” นายชวลิต กล่าว
สำหรับช่วงไตรมาส 3/64 ที่ผ่านมา บริษัทได้รับงานใหม่ จำนวน 4 โครงการ ซึ่งส่งผลให้ Backlog ณ ไตรมาส 3/64 (วันที่ 30 ก.ย.64) อยู่ที่ 4,809 ล้านบาท และยังมีงานที่รอเซ็นสัญญาจำนวน 3 โครงการ รวมมูลค่า 2,008 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องในปี 64-66
ด้านทิศทางการดำเนินธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายปี 64 บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์เชิงรุก รับงานที่มีมาร์จิ้นสูงและงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งติดตามและเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มโอกาสการรับงานที่หลากหลาย ขณะเดียวกัน บริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนให้เหมาะสมเพื่อรักษาอัตรากำไรของบริษัทให้อยู่ในระดับที่ดี ซึ่งคาดว่าการดำเนินธุรกิจจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในไตรมาส 4/64 เป็นต้นไป จากการก่อสร้างเพื่อเร่งส่งมอบงานตามกำหนด
ทั้งนี้ บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงานสามารถทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย งานก่อสร้างอุโมงค์ในโครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 3 จ.สระบุรี-จ.นครราชสีมา ความคืบหน้า 92.50% โครงการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำช่วงแม่แตง-แม่งัด จ.เชียงใหม่ ความคืบหน้า 96.50% โครงการก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินร่วมกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองความคืบหน้า 67.60% และงานก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก กรมชลประทาน จ.เลย ความคืบหน้า 41.70%