จากการรายงานข้อมูลของ Bloomberg Billionaire Index ซึ่งเป็นดัชนีที่ระบุความมั่งคั่งของอัครมหาเศรษฐีของโลก โดยชี้ให้เห็นชัดเจนว่า สินทรัพย์ของ Elon Musk ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Tesla ต้องสูญเสียเงินไปกว่า 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท จากการปรับตัวลดลงของหุ้น TESLA ภายในเวลาเพียงวันเดียว และหากเทียบเคียงจะมีมูลค่าเทียบเท่ากับมูลค่าของตลาดของ Dogecoin ซึ่งเป็นเหรียญมีมยอดนิยมซึ่ง Elon Musk มักจะเอ่ยถึงอยู่บ่อยครั้ง
ขณะที่ต้นตอของการสูญเงินครั้งมโหฬาร เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จากราคาหุ้นของ Tesla ซึ่งมีความผันผวนอย่างหนัก และเจอแรงกดดันจนปรับตัวดิ่งลง 11.99% ซึ่งถือเป็นการขาดทุนในวันเดียวที่มีมูลค่ามากที่สุดในรอบ 14 เดือน
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนมองว่าการที่ราคาหุ้นของ Tesla ที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงนั้น ส่วนนึงเป็นผลมาจากการสร้างผลสำรวจผ่านทวิตเตอร์ของ Elon Musk ซึ่งเขาได้โพสต์ถามนักลงทุนว่า เขาควรเทขายหุ้น Tesla 10% ที่เขาถืออยู่หรือไม่ ซึ่งจากโพลดังกล่าวนั้นสร้างผลกระทบต่อความเชื่อมั่นเชิงลบนักลงทุนและแบรนด์รถยนต์ตามมาในทันที
อย่างไรก็ตาม การสูญเสียสินทรัพย์จากมูลค่าการผันแปรของหุ้นที่ถือครอง จัดได้ว่าเป็นการสูญเสียมหาศาลที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเงินการลงทุนภายในเวลาเพียงวันเดียว โดยหากย้อนกลับไปดูสถิติก่อนหน้านี้ที่ Jeff bezos ผู้ก่อตั้ง และผู้บริหารสูงสุดของ Amezon เว็บไซด์เวิร์ลอีคอมเมิร์ซที่เคยสูญเงินไปกว่า 36,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากสินสมรสที่ต้องแบ่งให้ภรรยาหลังจากหย่าร้างในปี 2562
ทั้งนี้ หากพิจารณาทรัพย์สินของ Elon musk ตามรายงานของ Bloomberg Billionaire Index จะเห็นได้ว่ายังคงมีความมีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า Jeff Bezos อยู่ถึง 82,000 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามภายในระยะเวลา 2 วันเผยให้เห็นว่า Elon musk ได้สูญเสียเงินไปถึงกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเทียบเท่ากับสินทรัพย์ของ Len Blavatnik มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศอังกฤษ
อย่างไรก็ดีแม้ว่ามูลค่าสินทรัพย์ที่สูญหายไปนั้น เทียบจากอัตราราคาซื้อขายหุ้นของหุ้น Tesla ที่ปรับตัวลดลง แต่ Elon musk ก็ยังไม่ได้ไม่การขายหุ้น 10% ที่ถือครองอยู่ออกไปแต่อย่างใด โดยหากในอนาคตราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมา สินทรัพย์ที่เทียบเคียงจากการผันแปรของราคาหุ้น อาจส่งผลผลักดันให้ความมั่งคั่งของ Elon musk เพิ่มขึ้นกว่าเดิมก็ได้