หุ้นปิดเช้าลบ 4.09 จุด ตามตลาดต่างประเทศ Sentiment การลงทุนถูกกดดันจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ตลาดหุ้นเลยยังไปไม่ได้ไกล ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราซึมตามต่างประเทศแต่ไม่ได้ลงมาก แนะรอย่อตัวค่อยซื้อ แม้งบไตรมาส 3/64 ไม่ดีแต่ถือเป็น Bottom แล้ว จากนั้นช่วงไตรมาส 4/64 คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่จะติดลบ โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง และเกาหลีใต้ติดลบราว 1% ขณะที่รอบบ้านเราติดลบราว 0.5-0.7% ถือว่าตลาดหุ้นไทยติดลบน้อยกว่าภูมิภาค
การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นผลจากความกังวลเงินเฟ้อของสหรัฐฯกดดันทั่วโลก โดยวานนี้ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ต.ค.ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตพุ่งขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือน ก.ย.ยังอยู่ในระดับสูง และคืนนี้ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ น่าจะเร่งตัวเช่นกัน ซึ่งจะกดดัน Sentiment การลงทุน ตลาดหุ้นจึงยังไปได้ไม่ไกล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับขึ้นหลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์อุปทานน้ำมันจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งการที่ทางสหรัฐฯ จะพยายามปล่อยน้ำมันอาจไม่เกิดขึ้น ส่งผลให้เงินเฟ้อมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราซึมตามต่างประเทศแต่ไม่ได้ลงมาก แนะรอย่อตัวค่อยซื้อ แม้งบไตรมาส 3/64 ไม่ดีแต่ถือเป็น Bottom แล้ว จากนั้นช่วงไตรมาส 4/64 คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้
อย่างไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ต้องติดตามทิศทางเศรษฐกิจเป็นหลัก รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และการปรับน้ำหนักลงทุนของ MSCI ด้วย
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,627.60 จุด ลดลง 4.09 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.25% มูลค่าการซื้อขายราว 39,330 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดคงอยู่ในลักษณะซึม โดยมีแนวรับ 1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด
