"ร่วมอิสสระ" ขยายโปรเจกต์ต่อยอดความสำเร็จตลอด 10 ปีที่ผ่านมา หลังสร้างอาณาจักรอสังหาฯ มูลค่า 10,000 ล้านบาท เปิดที่ดินเพชรน้ำงามติดชายหาด ทำเลที่หายากมากของหัวหิน นำมาพัฒนาโครงการศศรา หัวหิน มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท ยอดขายไปกว่า 40% ระบุท่องเที่ยวหัวหินบูมได้รับอานิสงส์หลังการเปิดประเทศ ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ คึกคัก เหตุดีมานด์สูง แต่ซัปพลายใหม่ติดทะเลสวยๆ มีน้อย
นายบุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด (บริษัทร่วมทุนระหว่าง บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด บมจ.ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ บมจ.สหพัฒนพิบูล จำกัด ร่วมกันพัฒนาโครงการภายใต้ "อาณาจักรทิวทะเลเอสเตท") กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาของการพัฒนาโครการของบริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด ได้มีการลงทุนพัฒนาโครงการต่างๆ ไปแล้วร่วม 10,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพ และความมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้ออกมาตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายในทุกเซกเมนต์ พร้อมศึกษาพัฒนารูปแบบโครงการที่สร้างความแตกต่าง ให้ปรับเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ก้าวเข้าเป็นส่วนเติมเต็มความฝัน และความมั่นใจให้ผู้บริโภค
"10 ปีที่ผ่านมา ตนเองมีความต้องการที่จะพัฒนาโครงการอสังหาฯ ผมรู้จักคุณสงกรานต์ อิสสระ มากว่า 40 ปี และวันนี้ ความฝันของผมเป็นคามจริงในการพัฒนาโครงการที่หัวหิน ร่วมกันสร้างโครงการบ้านทิวทะเล และล่าสุด โครงการ ศศรา หัวหิน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้พัฒนาโครงการต่างๆ ออกมามากมาย ทั้งคอนโดฯ โรงแรม วิลล่า สถานีบริการปั๊มน้ำมัน ตลอดจน Commercial Area ที่เป็นแลนด์มาร์กของชะอำ-หัวหิน ซึ่งแต่ละโครงการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า และนักท่องเที่ยว สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการทำงานของทีมงานบริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด เรามีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาตลาดอสังหาฯ หัวหินเป็นอย่างดี และพร้อมพัฒนาในส่วนของที่ดินที่เรามีอยู่เอง หรือการมองหาที่ดินผืนใหม่ๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่า ตลาดอสังหาฯ ในหัวหินอยู่ยงคงกระพัน ตลาดการท่องเที่ยวเจริญขึ้น และเมื่อมีการเปิดประเทศน่าจะทำให้ท่องเที่ยวดีขึ้น บางประเทศที่มีการควบคุมและมีมาตรการดูแลเรื่องโควิด-19 อย่างดี จะพร้อมให้ประชาชนของตนเองออกเดินทางท่องเที่ยวได้ และประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่ชาวต่างชาติจะเดินทางมาพักผ่อน รวมถึงชาวจีน ที่อาจจะต้องรอดูนโยบายของรัฐบาลจีนอีกครั้ง"
ด้าน นายสงกรานต์ อิสสระ รองประธานกรรมการ บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด กล่าวว่า ชะอำ-หัวหิน เปลี่ยนแปลงไปเยอะ มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโต และในอนาคตจะมีรถไฟรางคู่เกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมของเมืองหัวหิน ขณะที่ยังมีท่าเทียบเรือเฟอร์รี่หัวหินเดินทางไปพัทยา จะเชื่อมการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง
"หัวหินยังถือเป็นสถานที่ที่ป็อปปูลาร์มาก จะเห็นได้ชัดเจนว่า ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย สถานที่แรกที่ทุกคนนึกถึงและอยากเดินทางท่องเที่ยวคือหัวหิน เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวก รองลงมาจะเป็นพัทยา ซึ่งถ้าดูจากยอดจำนวนผู้เข้าพักโรงแรมของเราหลังเปิดมา ยอดผู้เข้าพักสูงขึ้นมาทันทีกว่า 70-80% จึงพิสูจน์ได้ว่าทุกคนยังอยากเดินทางมาหัวหิน ขณที่ตลาดอสังหาฯ ในหัวหินดีมานด์ยังสูง ซัปพลายใหม่ติดทะเลสวยๆ มีน้อยลงมาก” นายสงกรานต์ กล่าว
ขณะที่ นายดิฐวัฒน์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด กล่าวว่า ได้มองเห็นถึงศักยภาพของที่ดินแปลงนี้ จึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่ดีอย่างบริษัท แฮบบิตา จำกัด มาร่วมกันออกแบบโครงการ ศศรา หัวหิน ลักชัวรี บีช ฟร้อน เรสซิเดนซ์ Low Rise ตั้งอยู่บริเวณชายหาดเขาตะเกียบ โดยอยู่ช่วงต้นหาดซอยหัวหิน 97-ซอยอ่าวหัวดอน ซอย 5 บนที่ดินกว่า 5 ไร่ เป็นอาคารสูง 4 ชั้น 5 อาคาร จำนวนเพียง 110 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในไตรมาส 2 ปี 2565 ราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาทไปจนถึงราคา 55 ล้านบาท
มีแบบห้องให้เลือกถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ 1 ห้องนอน จำนวน 42 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 37-42 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคา 5.5-10 ล้านบาท แบบ 2 ห้องนอน จำนวน 60 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 74-92 ตร.ม. ราคา 12-20 ล้านบาท และแบบ 3 ห้องนอน จำนวน 8 ยูนิน ขนาดพื้นที่ 155-160 ตร.ม. ราคา 49-55 ล้านบาท โดยแต่ละรูปแบบมีการออกแบบฟังก์ชันการอยู่อาศัยที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย ภายใต้แนวคิด “The Art Of Escape” สะท้อนให้เห็นถึงความเป็น “ศิลปะแห่งการพักผ่อน” ที่สะดวกสบาย มีความปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัวสูง มีหน้าหาดตลอดปี และทอดยาวกว่า 8 กิโลเมตร พื้นที่หน้าโครงการที่มีความยาว 46 เมตร
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการเปิดขายโครงการมาตั้งแต่ต้นปีนี้มียอดขายแล้วกว่า 40% และสำหรับโปรโมชันพิเศษช่วง Grand Opening ลูกค้าที่สนใจจองโครงการจะได้ส่วนลดสูงสุดถึง 500,000 บาท พร้อม Voucher ที่พัก 3 วัน 2 คืน Beachfront Penthouse จากโรงแรม Baba Beach Club Hua Hin มูลค่าสูงสุดกว่า 100,000 บาท ตั้งแต่วันนี้-31 มกราคม 2565 ลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 06-2514-7888 Line : @sasarahuahin และ www.charnissara.com
