หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบปิดบวกเบาบางเพียง 4.11 จุด หรือ +0.25% โบรกฯ ชี้ไร้ปัจจัยหนุนชัดเจน มีแรงซื้อเข้ากระจายหุ้นรายตัว คาดนักลงทุนจับตาการประชุมโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.นี้ หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง PTTEP รับอานิสงส์เด่น ประเมินแนวรับที่ 1,600 จุด และแนวต้านที่ 1,630 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.11 จุด หรือ +0.25% โดยปิดที่ระดับ 1,617.89 จุด ซึ่งมีมูลค่าการซื้อขาย 76,900.88 ล้านบาท โดยในระหว่างวันมีการแกว่งตัวปรับตัวลดลงในภาคเช้า ก่อนจะปรับตัวขึ้นในแดนบวกก่อนปิดตลาดภาคเช้า และแกว่งตัวอยู่ในแดนบวกอย่างต่อเนื่องจนปิดตลาด โดยปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,621.69 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,608.46 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงปรับตัวเพิ่มขึ้น จำนวน 575 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 542 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,135 หลักทรัพย์
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า 1,441.08 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 390.81 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1,251.23 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -580.67 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1.SCB มูลค่าการซื้อขาย 7,720.07 ล้านบาท ปิดที่ 130.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,216.82 ล้านบาท ปิดที่ 142.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3.KCE มูลค่าการซื้อขาย 2,596.47 ล้านบาท ปิดที่ 89.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
4.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,317.38 ล้านบาท ปิดที่ 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
5.SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,923.66 ล้านบาท ปิดที่ 393.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
ส่วนหุ้นกลุ่ม SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 416.00 บาท เพิ่มขึ้น +6.00 บาท หรือ +1.46%
2.SCB ปิดที่ 130.00 บาท เพิ่มขึ้น +5.00 บาท หรือ +4.00%
3.BH ปิดที่ 152.50 บาท เพิ่มขึ้น +4.50 บาท หรือ +3.04%
4.ADVANC ปิดที่ 192.00 บาท เพิ่มขึ้น +3.50 บาท หรือ +1.86%
5.PTTEP ปิดที่ 118.50 บาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท หรือ +1.72%
ขณะที่หุ้นกลุ่ม SET100 ที่มีราคาปรับตัวลบลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CBG ปิดที่ 123.00 บาท ลดลง -2.00 บาทหรือ -1.60%
2.COM7 ปิดที่ 71.25 บาท ลดลง -1.00 บาทหรือ -1.38%
3.INTUCH ปิดที่ 73.25 บาท ลดลง -1.00 บาท หรือ -1.35%
4.SCC ปิดที่ 393.00 บาท ลดลง -1.00 บาทหรือ -0.25%
5.STGT ปิดที่ 28.75 บาท ลดลง -0.75 บาทหรือ -2.54%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,220.09 จุด เพิ่มขึ้น 9.97 จุด หรือ 0.45% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 975.13 จุด เพิ่มขึ้น 4.71 จุด หรือ 0.49% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 544.40 จุด ลดลง -10.51 จุด หรือ -1.89%
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างวันดัชนี SET INDEX ปรับตัวลงแดนลบในช่วงเช้า ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมาก่อนปิดตลาดภาคเช้า ซึ่งหลังจากนั้นปรับตัวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน ขณะที่วอลุ่มการซื้อขายยังคงเบาบาง ซึ่งคล้ายกันกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่วันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ไร้ทิศทาง
อย่างไรก็ตาม ตลาดมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นรายตัว ทั้งธนาคารพาณิชย์ พลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่ได้กระจุกอยู่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ รวมถึงมีการเก็งกำไรเข้ามา หลังใกล้วันประชุมโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.นี้ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า โอเปกพลัสจะยังคงมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วัน และเริ่มเห็นราคาน้ำมันที่ขยับตัวขึ้น ส่งผลดีต่อ PTTEP
ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ย.) มองว่าตลาดหุ้นจะยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบต่อ โดยประเมินแนวรับที่ 1,600 จุด และแนวต้านที่ 1,630 จุด