xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยร่วง -9.65 จุด ตลาดยังจับตารอผลประชุม FED

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยแกว่งบวกช่วงเช้า ก่อนดิ่งไหลลงแดนลบตลอดทั้งวันก่อนปิดตลาดปรับตัวลดลง -9.65 จุด โบรก ฯ ชี้ดัชนี้ปรับตัวพักฐานรอผลประชุมเฟด

ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดซื้อขายวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ปรับตัวลดลง -9.65 จุด หรือ -0.59% โดยดัชนี SET INDEX ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 1,613.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 69,806.13 ล้านบาท ขณะที่ในระหว่างวันหลังเปิดตลาดภาคเช้าดัชนีหุ้นไทย เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก ก่อนปรับตัวลดลง และเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวันจนกระทั่งปิดตลาด โดยปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,632.73 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,611.39 จุด

ขณะที่ในส่วนของหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงปรับตัวเพิ่มขึ้นจำนวน 444 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 475 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,300 หลักทรัพย์

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -3,586.47 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -635.26 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 4,148.80 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 72.93 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,910.68 ล้านบาท ปิดที่ 11.00 บาท ลดลง 0.40 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,076.89 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,050.39 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,883.81 ล้านบาท ปิดที่ 116.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,781.92 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ด้านดัชนี SET100 ที่มีการปรับตัวของราคาบวกเพิ่มมากที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่
1.HANA(XD)ปิดที่ 83.75 บาท เพิ่มขึ้น +3.75 บาทหรือ +4.69%
2.BH ปิดที่ 148.00 บาท เพิ่มขึ้น +2.50 บาท หรือ +1.72%
3.KCE ปิดที่ 88.25 บาท เพิ่มขึ้น +1.25 บาทหรือ+1.44%
4.CBG ปิดที่ 125.00 บาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาทหรือ +0.81%
5.COM7 ปิดที่ 72.25 บาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท หรือ +0.70%

ขณะที่ดัชนี SET100 ราคาปรับตัวลดลงติดลบมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.TQM ปิดที่ 102.00 บาท ลดลง -3.00 บาทหรือ -2.86%
2.CPN ปิดที่ 57.50 บาท ลดลง -1.75 บาท หรือ -2.95%
3.KTC ปิดที่ 56.25 บาท ลดลง -1.50 บาท หรือ -2.60%
4.STA ปิดที่ 31.00 บาท ลดลง-1.50 บาท หรือ -4.62%
5.KTC ปิดที่ 56.25 บาท ลดลง -1.50 บาทหรือ -2.60%

ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,210.12 จุด ลดลง -10.43 จุด หรือ -0.47% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 970.42 จุด ลดลง -4.25 จุด หรือ -0.44% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 554.91 จุด ลดลง -3.74 จุด หรือ -0.67%

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยว่า ตลาดหุ้นไทยพักฐานลงในวันนี้มาจากแรงขายหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลงไปมาก โดยเฉพาะถ่านหิน และรับแรงขายจากหุ้นที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้ด้วย เช่นหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการเฝ้าจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบสลับกัน โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นตอบรับผลการเลือกตั้ง ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีนติดลบเล็กน้อย ด้านตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้บวกราว 1% จากการเล่นเก็งงบฯเป็นหลัก

ทั้งนี้ภาพรวมการลงทุนในสัปดาห์นี้ แนะนักลงทุนพิจารณาปัจจัยหลักคือการติดตามผลการประชุมเฟด, ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และผลการเปิดประเทศ 1 พ.ย.จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากหรือน้อยแค่ไหน รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ด้วย อีกทั้งให้รอติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสด้วย โดยแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ย.) มองว่าตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้หลังพักฐานวันนี้ โดยประเมินแนวรับที่ 1,610 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,625-1,630 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น