เดลต้า ปิดซื้อขายวันแรกที่ 12.90 บาท จากราคาไอพีโอที่กำหนดไว้หุ้นละ 7.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.40 บาท หรือ 72.00% มูลค่าซื้อขาย 6,662.76 ล้านบาท ผู้บริหารปลื้มเตรียมนำเงินไปใช้ขยายงานตามแผน ขณะโบรกเกอร์ให้ราคา 9.9 บาท อิง P/E 27 เท่า เทียบกับ TOA
หุ้น DPAINT หรือ บริษัท เดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT เข้าเทรดวันแรก เปิดตลาดด้วยราคา 22.50 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 15.00 บาทหรือ 200% ชนเพดานราคาสูงสุด (ซิลลิ่ง) จากราคาจองซื้อ IPO ที่กำหนดไว้หุ้นละ 7.50 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 22.50 บาท ต่ำสุดที่ 11.50 บาทและเมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 12.90 บาทเพิ่มขึ้น 5.40 บาท หรือ72.00% มูลค่าซื้อขาย 6,662.76 ล้านบาท
นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DPAINT กล่าวว่า บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่เชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจสีทาอาคารภายใต้แบรนด์ของคนไทยที่อยู่ในอุตสาหกรรมมากว่า 42 ปี ทำให้หลังจากที่บริษัทฯ เปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) เมื่อวันที่ 19-21ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ราคาหุ้นละ 7.50 บาท ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม
"การเข้ามาระดมทุนจะเป็นการปลดล็อกศักยภาพในการเติบโตให้บริษัทฯ เพื่อรองรับงานก่อสร้างที่ขยายตัว ประกอบกับประเทศไทยมีการพัฒนางานโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องในระยะยาวเป็นโอกาสของบริษัทฯ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มอบคุณค่าที่มากกว่าให้สังคม และสร้างการเติบโตอย่างคล่องตัวและรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มมาร์เกตแชร์ในตลาดสีทาอาคารที่มีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท" นายรณฤทธิ์
ขณะที่ ภาพรวมไตรมาส 4/64 กำลังซื้อเร่งตัว จากอุตสาหกรรมก่อสร้างเดินหน้า ตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 64 คาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 20 – 30% จากปี 2563 มีรายได้จากการขายและบริการ 596.2 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 41.9 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนำไปใช้ลงทุนขยายธุรกิจ โดยจะนำไปใช้ปรับปรุงโรงงาน เครื่องจักร และระบบการผลิตที่โรงงานสุวินทวงศ์ สนับสนุนให้โรงงานใหม่ทันสมัย เน้นระบบ Automation เพิ่มศักยภาพการผลิต และรองรับแผนการขยายตลาดในอนาคต คาดแล้วเสร็จภายในปี 68 และใช้ลงทุนในการซื้อเครื่องผสมสีจำนวน 440 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมากกว่าเท่าตัว เพื่อขยายช่องทางการจำหน่าย เจาะตลาดค้าปลีกให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ และครอบคลุมทั่วประเทศยิ่งขึ้น นอกจากนี้ จะนำเงินไปใช้ลงทุนในการทำระบบจัดการข้อมูลทางธุรกิจ ERP ใช้ลงทุนสร้างห้อง LAB เพิ่มศักยภาพในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ใช้ชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นบางส่วน และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
“บริษัทฯ ขอบคุณในความไว้วางใจของผู้ถือหุ้น และนักลงทุนทุกท่านที่ให้การตอบรับหุ้น DPAINT ในวันนี้ ในฐานะผู้บริหาร เราจะเดินหน้าสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างสุดความสามารถ เพื่อสะท้อนความเชื่อมั่นไปยังผู้ถือหุ้นของเรา” นายรณฤทธิ์ กล่าว
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า จากการประมาณการเบื้องต้นมูลค่าที่เหมาะสมในปี 2565 ของบมจ.สีเดลต้า (DPAINT) อยู่ที่ 9.9 บาท (อิงP/E 27 เท่า เทียบกับ TOA แต่ให้ส่วนลดเนื่องจากขนาดของบริษัทที่ต่างกัน) หนุนโดยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่โดยเน้นผลิตภัณฑ์กลุ่มสีคุณภาพพิเศษมีมาร์จิ้นสูง, การลงทุนซื้อเครื่องผสมสีเพิ่มสำหรับวางไว้ที่ร้านค้าซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนช่องทางการขายแก่บริษัท และการเปิดโรงงานแห่งที่ 2 ในช่วงไตรมาส4/64 ซึ่งช่วยทั้งในด้านการรองรับการขยายตัว และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมไปถึงยังรับประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาคการก่อสร้างในปี 2565
ขณะที่ระยะยาวจะถูกหนุนจากการย้ายไปยังโรงงานสุวินทวงศ์ที่จะสร้างเสร็จซึ่งจะช่วยหนุนอัตรากำไรแก่บริษัท (จากการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเนื่องจากเปลี่ยนเครื่องจักร และวิธีการผลิตใหม่ที่ลดการใช้คนลง) โดยอาจมีรายการพิเศษจากการขายโรงงานแห่งที่ 1 หลังจากย้ายการผลิตไปยังโรงงานสุวินทวงศ์แล้วเสร็จ สำหรับความเสี่ยงที่ต้องระวังของ DPAINT คือ การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม และราคาวัตถุดิบที่อาจสูงขึ้น
สำหรับ DPAINT ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร (Decorative Paint) โดยแบ่งเป็น สีคุณภาพพิเศษ สีคุณภาพสูง และสีคุณภาพคุ้มค่า โดยมีกลุ่มลูกค้า ได้แก่ ผู้รับเหมาและช่างทาสี เจ้าของที่พักอาศัย และเจ้าของโครงการทั้งภาครัฐและเอกชน โดยบริษัทและบริษัทย่อยจัดจำหน่ายสินค้าผ่านร้านโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) ร้านค้าปลีก (Retail) และงานโครงการ (Project)
