ช่วงนี้ หุ้นอสังหาฯ ถูกจับตาเป็นพิเศษจากปัจจัยบวกหลายประการทั้ง ครม. อนุมัติมาตรการช่วยเหลือภายใต้เงื่อนไข Flexible Plus Program ตามมาด้วย แบงก์ชาติปลดล็อก LTV 100% จากเดิมที่เคยให้เฉลี่ย 70-90% โดยผ่อนคลายทุกราคาบ้าน ทำให้หุ้นกลุ่มนี้เคลื่อนไหวกันคึกคัก และส่งผลให้อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD หุ้นแต่ละตัว บวกเกือบยกแผง
1.SIRI (บมจ.แสนสิริ) มาร์เกตแคป 19,047.75 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD +58.02% จาก 0.81บาท เมื่อสิ้นปี 63 มาถึง 1.28 บาท ณ 21 ต.ค.64) ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน (Yield) 3.12%
อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง 2 ปีหลัง ของ SIRI ติดลบค่อนข้างมาก เพราะปี 62 YTD -7.63% พอปี 63 ลบหนัก -25.69% แต่ปี 64 กลับทำผลงานราคาได้โดดเด่น และล่าสุด 21 ต.ค. 64 ปิด +3.23% ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด SIRI ลุ้นยอดขายแนวราบปีนี้ทะลุเป้า 1.66 หมื่นล้านบาทพร้อมเปิดตัวบ้านเดี่ยวซีรีย์ใหม่
2.ORI (บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้) มาร์เกตแคป 28,207.92 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD +52.32% (จาก 7.55 บาท เมื่อสิ้นปี 63 มาถึง 11.50 บาท ณ 21 ต.ค. 64 ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน (Yield) 4.26%
อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 63 เท่ากับ +7.86% ปี 62 เท่ากับ +6.06% และปี 64 ทำผลงานดีต่อเนื่อง ยิ่งเฉพาะล่าสุด 21 ต.ค.64 ปิด 11.50 บาทเพิ่มขึ้นมา +7.48% สูงสุดในกลุ่มอสังหาฯเลยทีเดียว ขณะความเคลื่อนไหวล่าสุด โบรกฯ มองว่า ORI ผลงานโดดเด่น คาดกำไรปี 64-66 โตเฉลี่ย 15% ปัจจุบันมี Backlog 3.35 หมื่นล้านบาท
3.NUSA (บมจ.ณุศาศิริ) มาร์เกตแคป 3,216.43 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD +37.93% จากราคา 0.29 บาท เมื่อสิ้นปี 63 มาถึง 0.40 บาท ณ 21 ต.ค. 64 ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน (Yield) N/A%
อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 62 ยังประคองตัวเป็นบวกได้ +4.26% แต่ปี 63 ตกต่ำสุด -40.82% เมื่อเข้าสูปี 64 ทำราคาไต่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด 21 ต.ค. 64 ปิด +5.26% ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด ณุศาศิริ ผนึกกำลังเอ็มทีดับบลิว ทุ่มเงิน 200 ล้านบาท ต่อยอด Nusa Tech
4.LALIN (บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้) มาร์เกตแคป 13,308.93 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD +26.53% จาก 7.35 บาท เมื่อสิ้นปี 63 มาถึง 9.30บาท ณ 21 ต.ค. 64 ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน (Yield) 6.56%
อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 62 เท่ากับ +6.85% ปี 63 เท่ากับ +42.72% และปี 64 ยังทำราคา YTD เป็นบวก และล่าสุด 21 ต.ค. 64ปิด 9.30บาท เพิ่ม +1.09% ขณะความเคลื่อนไหวล่าสุด LALIN ลุยเปิด 2 โครงการใหม่หวังดันรายได้เข้าเป้า 6 พันล้านบาท
5.SC (บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น) มาร์เกตแคป 14,659.83 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD +25.90% จาก 2.78 บาท เมื่อสิ้นปี 63 มาถึง 3.50 บาท ณ 21 ต.ค. 64 อัตราเงินปันผลตอบแทน (Yield) 5.14%
อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง ปี 62 เท่ากับ -16.30% ส่วนปี 63 พลิกกลับมาบวก +23.01% และปี 64 ทำผลได้ดี ซึ่งล่าสุด 21 ต.ค. 64 ปิด 3.50 บาท เพิ่ม +1.16% ขณะความเคลื่อนไหวล่าสุด โบรคมองว่า SC ยอดขาย Q4/64 ฟื้นตัว รับแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ากว่า 5.8 พันล้านบาท
6. AP (บมจ.เอพี (ไทยแลนด์)) มาร์เกตแคป 27,526.62 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD +20.69% จาก 7.25 บาท เมื่อสิ้นปี 63 มาถึง 8.75 บาท ณ 21 ต.ค. 64 ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน (Yield) 5.14%
อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 62 เท่ากับ +24.17% ปี 63 เท่ากับ -2.68% แต่มาปี 64 ทำผลดีขึ้นกลับมาบวก และล่าสุด 21 ต.ค. 64 ปิด 8.75บาท เพิ่ม +6.06% ขณะความเคลื่อนไหวล่าสุด AP จับมือ “อิเกีย ประเทศไทย” เปิดตัวต้นแบบสเปซ Multi-Functional Future เจาะตลาดแมสคอนโด
7.PSH (บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง) มาร์เกตแคป 29,544.82 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD +8.00% จาก 12.50 บาท เมื่อสิ้นปี 63 มาถึง 13.50 บาท ณ 21 ต.ค.64 ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน (Yield) 7.11%
อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 62 เท่ากับ -14.45% ต่อมาปี 63 ยังลบต่อเนื่อง -15.54% ส่วนปี 64 ยังคงเป็นบวก และล่าสุด 21 ต.ค. 64ปิด 13.50บาท เพิ่ม +1.50% ขณะความเคลื่อนไหวล่าสุด PSH โบรกฯ มองครึ่งปีแกร่ง หลังมีแผนเปิดโครงการใหม่ 15 โครงการ มูลค่ารวม 1.78 หมื่นล้านบาท
8.SPALI (บมจ.ศุภาลัย) มาร์เกตแคป 46,290.51 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD +5.37% จาก 20.50 บาท เมื่อสิ้นปี 63 มาถึง 21.60 บาท ณ 21 ต.ค.64 ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน (Yield) 4.63%
อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 62 เท่ากับ -1.65% ต่อมาปี 63 พลิกกลับมาบวก +14.53% ขณะปี 64 ยังคงบวก และล่าสุด 21 ต.ค. 64ปิด 21.60 บาท เพิ่ม +5.88% ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด SPALI ประเมินยอดขาย 9 เดือนปี 64 ที่ 1.75 หมื่นล้านบาท และเปิดโครงการคอนโดใหม่ทั้ง 4 มูลค่ารวม 5.7 พันล้านบาท
9.LH (บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์) มาร์เกตแคป 99,780.11 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD +5.03% จาก 8.05 บาท เมื่อสิ้นปี 63 มาถึง 8.35 บาท ณ 21 ต.ค.64 ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน (Yield) 5.99%
อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 62 เท่ากับ -1.01%ปี 63 ยังลบ -18.88% พอขึ้นปี 64 พลิกกลับมาบวก และล่าสุด 21 ต.ค.64 ปิด 8.35 บาท เพิ่ม +1.83% ขณะความเคลื่อนไหวล่าสุดบทวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ระบุ LH เป็น 1 ใน 4 หุ้นอสังหาฯ งบดุลที่โดดเด่นและยอดขายล่วงหน้าของอสังหาฯแนวราบ ที่แข็งแกร่ง
10.A (บมจ.อารียา พรอพเพอร์ตี้) มาร์เกตแคป 5,047.00 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD +3.00% จาก 5.00 บาท เมื่อสิ้นปี 63 มาถึง 5.15 บาท ณ 21 ต.ค. 64 ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน (Yield) 0.58%
อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 62 เท่ากับ -7.52% ปี 63 ยังลบ -18.70% ปี64 และล่าสุด 21 ต.ค.64 ปิด 5.15 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุดอารียาเปิดตัวโครงการ Flagship แห่งปี ด้วยแนวคิด ‘MADLY MINIMAL’ เจาะตลาดคน GEN Y
11.QH (บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์) มาร์เกตแคป 25,071.65 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD +0.86% จาก 2.32 บาท เมื่อสิ้นปี 63 มาถึง 2.34 บาท ณ 21 ต.ค.64 ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน (Yield) 5.13%
อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 62 เท่ากับ -2.29% ปี 63 เท่ากับ -9.38% ส่วนปี 64 พลิกมาบวก และล่าสุด 21 ต.ค. 64 ปิด 2.34 บาท เพิ่ม +2.63% ขณะความเคลื่อนไหวล่าสุด ควอลิตี้เฮ้าส์ เปิดตัวแคมเปญ Miracle Deal 20% OFF มอบส่วนลด กับ 12 โครงการคอนโดพร้อมอยู่
12.ANAN (บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์) มาร์เกตแคป 5,332.80 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD -15.79% จาก 1.90 บาท เมื่อสิ้นปี 63 ลดเหลือ 1.60 บาท ณ 21 ต.ค.64 ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน (Yield) N/A
อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 62 เท่ากับ -19.14% ต่อมาปี 63 ยังติดลบ -27.48% พอปี 64 ยังติดลบต่อเนื่อง และล่าสุด 21 ต.ค.64 ปิด 1.60 บาท เพิ่ม +2.56% ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด ANAN คาดปีนี้โอนทะลุหมื่นล้านบาท เล็งปี 65 เปิดโครงการใหม่ 2 หมื่นล้านบาท
13.NOBLE (บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์) มาร์เกตแคป 9,243.54 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD -18.34% จาก 24.80 บาท (แตกพาร์เหลือ 8.27 บาท) เมื่อสิ้นปี 63 เหลือ 6.75 บาท ณ 21 ต.ค.64 ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน (Yield) 12.84%
อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 62 เท่ากับ +15.49% ปี 63 ยังบวก +51.22% ปี 64 พลิกมาติดลบ และล่าสุด 21 ต.ค.64 ปิด 6.75 บาท เพิ่ม +3.85% ขณะความเคลื่อนไหวล่าสุดโนเบิลอัดแคมเปญส่งท้ายปี ส่ง 3 คอนโดมิเนียมหรู พร้อมอยู่ กับที่สุดของราคาน่าช้อนแห่งปี
อย่างไรก็ตาม ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าการผ่อนปรนเกณฑ์มาตรการ LTV จะช่วยหนุนให้ตลาดที่อยู่อาศัยทยอยปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศตลอดช่วงเวลาของมาตรการ จะเพิ่มขึ้นจากที่เคยคาดไว้คิดเป็นมูลค่าราว 18,000-30,000 ล้านบาท