แจ็ค ดอร์ซีย์ CEO สแควร์ แย้มบริษัทอาจกระโจนร่วมวงเหมืองบิตคอยน์สำหรับทั้งบุคคลทั่วไปและภาคธุรกิจ ด้วยการทำให้อุตสาหกรรมขุดเหรียญคริปโตง่ายดายเหมือนการเสียบปลั๊ก
คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (15) ดอร์ซีย์ทวิตว่า สแควร์กำลังพิจารณาสร้างระบบเหมืองขุดบิตคอยน์ (BTC) สำหรับบุคคลทั่วไปและธุรกิจทั่วโลก โดยอิงกับคัสตอมซิลิคอนและระบบโอเพนซอร์ส
ภายหลังการทวิตของดอร์ซีย์ที่ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ทวิตเตอร์ด้วยนั้น ราคาบิตคอยน์พุ่งทะลุหลัก 60,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน นับตั้งแต่จีนกวาดล้างการเทรดและการขุด BTC เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังมากขึ้น หลังจากเมื่อคืนวันพฤหัสฯ (14) มีรายงานว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อาจไฟเขียวให้เทรดกองทุน Bitcoin ETF Futures ครั้งแรกในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะช่วยขยายโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิตอลในอนาคต
แผนการใหม่นี้จะทำให้สแควร์มีโปรเจ็กต์บิตคอยน์เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับผู้พัฒนา และฮาร์ดแวร์วอลเล็ตสำหรับคริปโต
เป้าหมายของดอร์ซีย์คือ ทำให้การขุดคริปโต หรือกระบวนการสร้างเหรียญบิตคอยน์ใหม่ด้วยการแก้ปัญหาการคำนวณอันซับซ้อน เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของสแควร์ในการทำให้ธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการอิสระรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตได้ง่ายดายขึ้น โดยดอร์ซีย์บอกว่า เหมืองขุดบิตคอยน์ที่สแควร์เล็งพัฒนาจะง่ายดายเหมือนเสียบปลั๊กอุปกรณ์เข้ากับแหล่งพลังงาน
เขาบอกว่า โปรเจ็กต์นี้จะเดินรอยตามโมเดลฮาร์ดแวร์วอลเล็ตด้วยการสร้างระบบเปิดผ่านการร่วมมือกับชุมชน
CEO สแควร์สำทับว่า จำเป็นต้องให้ความสนใจมากขึ้นในเรื่องการบูรณาการแนวตั้ง ตลอดจนถึงการออกแบบซิลิคอนที่ขณะนี้กระจุกอยู่ในหมู่บริษัทเพียงไม่กี่แห่ง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ซัปพลายชิปขาดแคลน
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมเหมืองบิตคอยน์ถูกควบคุมโดยผู้เล่นรายใหญ่ที่มีทุนซื้อ ASIC หรืออุปกรณ์ขุดเหรียญนับหมื่นเครื่อง ขณะที่ไม่มีมาตรการจูงใจมากพอสำหรับคนทั่วไปในการเอาชนะความซับซ้อนในการรันเหมืองขุดเหรียญเอง
ดอร์ซีย์ยังบอกอีกว่า การขุดเหมืองควรมีการกระจายศูนย์เพื่อให้เครือข่ายบิตคอยน์ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น
เขายังพูดถึงข้อถกเถียงในประเด็นพลังงานเกี่ยวกับรอยเท้าคาร์บอนจากการขุดบิตคอยน์ โดยบอกว่า การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพจะส่งผลดีต่อบิตคอยน์ทั้งในด้านเศรษฐศาสตร์ ผลกระทบ และความสามารถในการรองรับการขยายตัว และสำทับว่า พลังงานเป็นปัญหาในระดับระบบที่ต้องการนวัตกรรมในส่วนซิลิคอน ซอฟต์แวร์ และการบูรณาการ
คำประกาศของสแควร์ยังเกิดขึ้นขณะที่อเมริกาที่มีตัวเลือกพลังงานหมุนเวียนมากมายแซงหน้าจีนในฐานะจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ขุดเหมืองบิตคอยน์ครั้งแรก
ดอร์ซีย์ทิ้งท้ายว่า เจสซี โดโรกัสเกอร์ ที่เป็นผู้นำด้านฮาร์ดแวร์และหัวหน้าโครงการสร้างวอลเล็ตคริปโตของสแควร์ จะเริ่มศึกษาเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาระบบเหมืองคริปโตใหม่ โดยที่แอฟชิน เรซายี ผู้นำและสถาปนิกทีมซิลิคอนของสแควร์ในโทรอนโต แคนาดา ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำโปรเจ็กต์ เนื่องจากซิลิคอนจะเป็นหัวใจสำคัญของแผนการริเริ่มนี้