บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยเดือนต.ค.มีแนวโน้ม Sideway Up รับข่าวบวกสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศดีขึ้น บวกราคาน้ำมันปรับขึ้นแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดันดัชนี คาดแกว่งตัวในกรอบ 1,570-1,650 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์ชอปหุ้นได้ประโยชน์จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของค่าการกลั่น และยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลง
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยเดือนตุลาคมว่า ยังคงปรับตัวขึ้นในลักษณะ Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศต่ำกว่าระดับหมื่นรายประกอบกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีความคืบหน้า ณ 30 ก.ย.2564 มียอดสะสมทั้งสิ้น 53,784,812 โดส และคาว่าจะเร่งขึ้นในเดือน ต.ค.นี้หลัง ครม.เห็นชอบซื้อวัคซีนแอสตร้าฯ จากฮังการีเพิ่ม 4 แสนโดส และไอซ์แลนด์บริจาคไฟเซอร์ 1 แสนโดส
อีกทั้งทาง ครม.เห็นชอบจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ EEC เพิ่มเติม 6 แห่งและเปลี่ยนแปลงเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษจำนวน 1 แห่ง เพื่อเพิ่มจุดแข็งดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายและรองรับการลงทุนในอนาคตในอุตสาหกรรมเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในเดือน ก.ย.64 ปรับขึ้น 9.5% ตลอดทั้งไตรมาส 3/2564 สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 2.1% ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 6 ไตรมาส โดยล่าสุดทางโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันตามคาดในเดือนพ.ย. แม้หลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ และอินเดียต่างกดดันให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่า 400,000 บาร์เรล/วันเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นหุ้นที่มีมาร์เกตแคปขนาดใหญ่จึงมีผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนี จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,570-1,650 จุด
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาปัจจัยต่างๆ เช่น สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในหลายจังหวัดสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ รวมถึงปัจจัยการเมืองมีความไม่แน่นอนจากเสถียรภาพของพรรคฝ่ายรัฐบาล กระแสข่าวปรับ ครม. และทาง ศปก.ศบค. ประเมินสถานการณ์โควิด-19 คลายล็อกเพิ่ม ธปท.เผยแพร่รายงานการประชุม กนง. ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ธปท. เผยแพร่รายงานนโยบายการเงิน ส.อ.ท.แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค และดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม และการรายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2564 ประเดิมกลุ่มแรกกลุ่มธนาคาร ส่วนญี่ปุ่นมีการเปิดเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือน ส.ค. และดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ส.ค. ด้านจีนมีการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน ก.ย. รวมทั้งสหรัฐฯ จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย. ตัวเลขสำคัญของตลาดแรงงานสหรัฐฯ
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของค่าการกลั่น ส่งผลเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น TOP, SPRC และ PTTGC ที่จะส่งผลให้ตัวเลขผลการดำเนินงานเติบโตไปด้วย และรองลงมาเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ลดลง ได้แก่ MINT, ERW, CENTEL, AWC, SHR, ASAP, AOT, BEM และ BTS ส่งผลให้กลับมาจัดกิจกรรมเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศได้เพิ่มขึ้น
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินกรอบทองคำในเดือนตุลาคม ว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 1,730-1,800 $/Oz โดยแนะนำให้หาจังหวะ Short เมื่อทองคำปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน เนื่องจากเฟดเตรียมปรับลดวงเงิน QE ลงภายในปลายปีนี้ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำในระยะกลาง โดยในปี 2013 ที่มีการปรับลดวงเงิน QE ราคาทองคำจะปรับตัวลงและแตะจุดต่ำสุด ณ เดือนที่เฟดมีการปรับลดวงเงิน QE