นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ.อุบล ไบโอ เอทานอล เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "UBE" ในวันที่ 30 กันยายน 2564
UBE เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปมันสำปะหลังแบบครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ ประกอบธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) ธุรกิจเอทานอล ผลิตและจำหน่ายเอทานอลเกรดเชื้อเพลิงและเกรดอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศ ด้วยกำลังการผลิต 400,000 ลิตรต่อวัน
2) ธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง เกรดอาหารและเกรดอุตสาหกรรม ทั้งแบบทั่วไปและออแกนิกภายใต้แบรนด์ "อุบลซันฟลาวเวอร์" และมีผลิตภัณฑ์จากแป้งฟลาวมันสำปะหลัง ภายใต้แบรนด์ "Tasuko" ซึ่งบริษัทถือเป็นผู้ผลิตและส่งออกแป้งมันสำปะหลังออแกนิกเพียงไม่กี่รายในโลกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานออแกนิกในระดับสากล และ 3) ธุรกิจเกษตรอินทรีย์ ปลูกพืชออแกนิก เช่น ข้าว กาแฟ
ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์ ควบคู่กับธุรกิจพลังงาน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง
UBE มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 3,914.28 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวนรวม 1,370 ล้านหุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 1,174.28 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยบริษัท ไทยออยล์ เอทานอล จำกัด และบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) รวมจำนวน 195.71 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญต่อบุคคลตามดุลพินิจ ของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์และผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 21-23 กันยายน 2564 ในราคาหุ้นละ 2.40 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 2,818 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 9,394 ล้านบาท โดยมีบริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.อุบล ไบโอ เอทานอล เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญของบริษัทที่จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทดำเนินธุรกิจได้ตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ในการสร้างสรรค์ธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบทางการเกษตรอย่างครบวงจร ส่งเสริมวิถีการเกษตรอินทรีย์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ UBE มีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนไปขยายและพัฒนาประสิทธิภาพกระบวนการผลิตในธุรกิจเอทานอล ขยายกำลังการผลิต แป้งฟลาวมันสำปะหลัง และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเกษตรอินทรีย์ให้มีมูลค่าสูง
UBE มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มครอบครัวโควสุรัตน์ ถือหุ้น 25.77% บริษัท ไทยออยล์ เอทานอล จำกัด ถือหุ้น 12.39% และบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 12.39% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
UBE มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และสำรองตามกฎหมาย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ กระแสเงินสดและแผนการลงทุนของบริษัทตามความ เหมาะสม