นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ จาก Bloomberg Intelligence ชี้สภาพคล่องในตลาดทองคำกำลังค่อย ๆ ทยอยหายไป เนื่องจากนักลงทุนที่ถือครองทองคำ มีความนิยมในทองคำลดน้อยลง และย้ายไปยังสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) แทน เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่รวดเร็วกว่า แม้จะมีความผวนสูงกว่าก็ตาม
Mike McGlone นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ จาก Bloomberg Intelligence กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Stansberry Research ว่าเขาประเมินการไหลออกของทองคำไปยังสกุลเงินดิจิทัลหลัก ๆ ในปีนี้ต่ำเกินไป โดยที่อุปทานของคริปโตเคอเรนซีที่มองว่ามีจำกัดแต่ได้แซงหน้าโลหะมีค่าอย่างทองคำไปแล้ว
“ในทุกวันนี้ Bitcoin แม้จะมีความผันผวน แต่กลับให้ผลตอบแทนที่รวดเร็วกว่าทองคำมากนัก โดยราคา Bitcoin ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญมาก เหมือนดั่งที่คนบอกว่า มันคือทองคำดิจิทัล และราคาก็พุ่งทะยานไปสู่อวกาศ สวนทางกับทองคำที่กลับลดลงประมาณ 7% ในปีนี้” McGlone กล่าว
อย่างไรก็ตามนักยุทธศาสตร์เชื่อว่า Bitcoin สามารถพุ่งขึ้นสู่ $100,000 ในปีนี้ หลังจากการปรับฐานครั้งใหญ่ซึ่งเห็นว่าคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) ยอดลดลงต่ำกว่าระดับ $30,000
เหตุผลที่สภาพคล่องไหลเข้าตลาดคริปโต
นักลงทุนที่เคยลงทุนในทองคำในฐานะสินทรัพย์มั่นคงและการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ได้มีการเคลื่อนย้ายเงินที่ลงทุนในทองคำออกไปสู่สกุลเงินดิจิทัลเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุน ท่ามกลางความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ Bitcoin และ Ethereum ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกสองสกุลตามมูลค่าราคาตลาด
กำไรจาก Bitcoin ของ Apex เพิ่มขึ้นทุกปีอยู่ที่เกือบ 50.4% ในขณะที่กำไรของ Ethereum ต่อปีอยู่ที่ 329.4%
ทั้งนี้การปรับตัวของราคาคริปโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย Bitcoin +3.6% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยซื้อขายที่ 43,942.04 ดอลลาร์ ณ เวลาปัจจุบัน ขณะที่ Ethereum เพิ่มขึ้น +7.2% ในช่วง 24 ชั่วโมงเป็น 3,137.17 ดอลลาร์