Zipmex ประกาศปิดรอบลงทุน Series B มูลค่ารวม 41 ล้านเหรียญสหรัฐ สะท้อนถึงความมั่นใจในศักยภาพของบริษัทฯ ชี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งการให้บริการด้านเงินดิจิทัล และขยายไปทั่วภูมิภาคอาเซียน
นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Zipmex Thailand เปิดเผยว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศรายชื่อนักลงทุนที่มาลงทุนในรอบนี้กับเราเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุน การลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล มันไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ในทุกๆ วันที่คุณจะเห็นอุตสาหกรรมคริปโตฯ ได้รับการลงทุนจากนักลงทุนในหลากหลายอุตสากรรม ซึ่งมีตั้งแต่ VC ระดับโลก และธนาคารพาณิชย์มาร่วมลงทุนด้วยกันแบบนี้ จะทำให้ Zipmex เข้าใกล้ฝันของเราที่จะทำให้เรื่องของการเงิน เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน โดย Zipmex ได้วางแผนที่จะนำเงินระดมทุนนี้ ไปพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน (technological infrastructure) รวมถึงการมีผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน สร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่"
B Capital เป็น Venture Capital ระดับโลกสัญชาติสหรัฐ ก่อตั้งโดย นายเอดูอาโด ซาเวอริน (Eduardo Saverin) ผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook และ นายราจ กันกูลี (Raj Ganguly) เน้นการลงทุนในบริษัทที่อยู่ในภูมิภาคต่างๆ ที่ต้องการปฏิรูปอุตสาหกรรมดั้งเดิมโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี โดย B Capital ร่วมกับพันธมิตรอย่าง The Boston Consulting Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลก ใช้ความชำนาญด้านธุรกิจที่หลากหลาย ช่วยให้บริษัทที่ B Capital เข้าลงทุน สามารถบรรลุเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจการระดมทุน และดึงดูดบุคคลากรที่มีศักยภาพมาเป็นส่วนหนึ่งของทีม ตัวอย่างของสตาร์ทอัพ ที่ B Captial ได้ลงทุนก่อนหน้านี้ และได้เปลี่ยนโฉมการดำเนินธุรกิจดั้งเดิม เช่น Ninjavan ผู้ให้บริการทางโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ CoinDCX แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอเรนซี่ ซึ่งเป็นยูนิคอร์นรายใหญ่สุดของอินเดีย
ด้านนายชาร์ลส์ วอง ผู้ร่วมก่อตั้ง และ Managing Partner ของ TNB Aura กล่าวว่า TNB Aura เป็นบริษัทร่วมทุนระดับภูมิภาค ที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลจากเชิงลึก ทั้งในทางทฤษฎีและการวิจัยมาช่วยคัดเลือกบริษัทที่จะร่วมลงทุน โดยที่ผ่านมา ได้ร่วมระดมทุนไปแล้วกับบริษัทที่ศักยภาพต่างๆ ได้แก่ Zenyum, Super, Co-Learn Propzy และบริษัทชั้นนำอื่นๆ
ทั้งนี้ TNB Aura มองว่า Zipmex ประกอบไปด้วยทีมผู้บริหารที่มีศักยภาพสูง มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และ มีแผนการดำเนินงานที่บรรลุเป้าหมายได้จริง แสดงให้เห็นว่า Zipmex มุ่งมั่นที่จะให้บริการแพลตฟอร์มด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่ก้าวข้ามขีดจำกัดต่างๆ สามารถเข้าถึงได้ง่ายสำหรับนักลงทุนและผู้บริโภคในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะเป็นก้าวต่อไปของการปฏิวัติด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในพันธกิจนี้ และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับ Zipmex อย่างใกล้ชิดในการส่งผ่านรูปแบบการใช้จ่าย การออม และการหารายได้ในสินทรัพย์ดิจิทัล ไปสู่นักลงทุนและผู้ที่สนใจทุกคน นายชาร์ลส์ วอง กล่าว
ทั้งนี้ในการบริหารงาน จะมีตัวแทนจาก B Capital และ TNB Aura ร่วมเป็นสมาชิกของบอร์ดบริหารของ Zipmex เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและความเข้มแข็งของยุทธศาสตร์อีกด้วย
ขณะที่นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ General Partner ของ V Venture เผยว่า V Venture เป็นบริษัทร่วมทุนสัญชาติสิงคโปร์ ก่อตั้งจากการร่วมทุนกับบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) เน้นการลงทุนในบริษัทหลากหลายระดับตั้งแต่ระยะเริ่มต้นธุรกิจ จนถึงที่เติบโตแล้วในภูมิภาคต่างๆ รวมถึงการลงทุนในหลากหลายกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี ตั้งแต่อุตสาหกรรมการออกแบบนวัตกรรมสินเชื่อออนไลน์ ไปจนถึง การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่ได้อยู่บนโลกของอินเตอร์เน็ต ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ได้แก่ Blender Finance, Cloudbreakr, Creative Ventures, Owlstone Medical เป็นต้น
ทั้งนี้นายเฉลิมชัยมองว่า การระดมทุนครั้งนี้จะทำให้ Zipmex ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิทัลไฟแนนซ์ระดับภูมิภาค โดยการดำเนินการทั้งหมดสามารถทำได้ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของประเทศไทย และในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย
“ด้วยทีมงานที่เข้มแข็ง มีความรู้ความเข้าใจ มีประสบการณ์ ผนวกกับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี มาเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการดำเนินธุรกิจ ทำให้การพัฒนาไปสู่การเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านดิจิทัลไฟแนนซ์อย่างเต็มรูปแบบมีความเป็นไปได้สูง เราจึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการระดมทุนรอบนี้ และพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลังในการเดินทางไปสู่เป้าหมายต่อไป” นายเฉลิมชัยกล่าว
“เรามีความยินดีที่จะประกาศรายชื่อผู้ระดมทุนเพิ่มเติมได้แก่ B Capital, TNB และ V Ventures ซึ่งมาร่วมลงทุนพร้อมกับ กรุงศรี ฟินโนเวต, MindWorks, Plan B & MACO Media รวมถึง Jump Capital ที่เป็นนักลงทุนจากรอบ Series A ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ระดมทุนกลุ่มนี้ที่จะมาร่วมสนับสนุนให้บรรลุถึงเป้าหมายของเรา เพื่อให้นักลงทุนทุกคนได้รับการบริการที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ถือว่าเป็นการสร้างปรากฎการณ์ที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งของเรา น้อยครั้งที่ธุรกิจคริปโทเคอเรนซี่จะมีการระดมทุนร่วมกันของกลุ่มบริษัทที่หลากหลาย ทั้งจากบริษัทร่วมทุนระดับโลก ไปจนถึงสถาบันการเงิน เช่น ธนาคาร จึงนับเป็นก้าวย่างสำคัญที่ช่วยสร้างโอกาสอันแข็งแกร่งให้เราสามารถมอบบริการทางด้านการเงินดิจิทัลที่ไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง” นายเอกลาภ กล่าวทิ้งท้าย