หุ้นปิดลบ 6.05 จุด นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งผันผวนแดนลบจากแรงขายทำกำไรหุ้นใหญ่หลังจากกระแสเปิดเมืองไม่แน่นอน แต่ยังมีแรงเก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็ก โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังไปไหนไม่ไกลหรืออาจซึมลงช่วงใกล้ประชุมเฟด 21-22 ก.ย. อาจเห็น Fund Flow ชะลอ แต่หากเฟดเผยแผนปรับลด QE ราว 1-1.5 หมื่นล้านเหรียญอาจเห็นภาพเป็นบวกต่อ Fund Flow ให้แนวรับที่ 1,615 และ 1,607 จุด แนวต้าน 1,630 และ 1,643 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวผันผวนในแดนลบตลอดวัน ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวบวก/ลบสลับกัน โดยบ้านเรารับแรงขายทำกำไรหุ้นใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นมามากแล้ว และกระแสความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แต่ละหน่วยงานยังมีความเห็นไม่ตรงกัน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต้องการเปิดกรุงเทพฯ 15 ต.ค. แต่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ยังไม่เห็นด้วย ทำให้ทิศทางการลงทุนเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน
อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังมีแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นขนาดกลางและเล็ก เช่น กลุ่มปาล์มน้ำมัน กลุ่มวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์มีแรงเก็งกำไรเข้ามาหนาแน่น ซึ่งต่างประเทศระบุในบทวิเคราะห์ทำให้ทิศทางเป็นบวกด้วย จึงเห็นการปรับขึ้นพอสมควร
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,625.65 จุด ลดลง 6.05 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.37% มูลค่าการซื้อขาย 105,671.89 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าตลาดหุ้นคงไม่ไหนไม่ไกล หรืออาจซึมลง เพราะใกล้การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 21-22 ก.ย. อาจจะเห็นเม็ดเงินต่างประเทศ (Fund Flow) ชะลอ หุ้นขนาดใหญ่อาจไม่ไปไหน ส่วนหุ้นขนาดกลางและเล็กที่ไม่ได้พึ่งพิง Fund Flow คิดว่าไม่รับผลกระทบ และยังเห็นแรงเก็งกำไรปรับตัวเป็นบวกได้
อย่างไรก็ดี หากเฟดเปิดเผยแผนปรับลดวงเงิน QE ลักษณะทยอยลดลงประมาณ 1-1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ภาพจะเป็นบวก เพราะใช้เวลาอีกมากกว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น Fund Flow อาจเข้าหุ้นใหญ่
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,615 และ 1,607 จุด แนวต้านให้ไว้ที่ 1,630 และ 1,643 จุด