"สตาร์ ยูนิเวอร์แซล เน็ตเวิร์ค" แก้ไขเหตุเข้าข่ายเพิกถอน เดินหน้าลงทุน "สิทธิอินเตอร์เนชั่นแนล" เพิ่มเป็นกว่า 50% และให้บริการนายหน้าจัดหาสินค้าอุปโภคบริโภค ตลอดจนสินค้าเกษตรและอื่นๆ เพื่อจําหน่ายใน สปป.ลาว และประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการนําเข้าส่งออกสินค้าระหว่างภูมิภาค ลง MOU กับ "เวียงจันทร์โลจิสติกส์พาร์ค" พัฒนาโครงการท่าเรือบก และ Vientiane Logistics Park เพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่อง
นายธนกฤต อัจฉริยะสมบัติ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ ยูนิเวอร์แซล เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ STAR แจ้งว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศให้บริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน เพื่อให้เป็นไปตามข้อกําหนดของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน กรณีมีผลการดําเนินงานหรือฐานะการเงินที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนอันเนื่องมาจากบริษัทหยุดประกอบกิจการทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด เพื่อให้เป็นไปตามข้อความในข้อกําหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังกล่าว โดยดําเนินการดังนี้
1.ประกาศว่าหลักทรัพย์ขอบริษัทฯ มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเป็นปีที่ 1 (NC ระยะที่ 1) ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม2564 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-compliance) และยังคงเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทต่อไป
2.ให้บริษัทฯ แจ้งแนวทางดําเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอน กรณีบริษัทมีการหยุดประกอบกิจการทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด พร้อมทั้งกําหนดเวลาดําเนินการของแนวทางดําเนินการดังกล่าว โดยให้บริษัทเผยแพร่ให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนได้ทราบภายในวันที่ 17 กันยายน 2564
3.เมื่อครบกําหนดเวลาตามข้อ 2 หากบริษัทฯ ได้แจ้งแนวทางดําเนินการของบริษัทอย่างครบถ้วนชัดเจนแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะอนุญาตให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทได้เป็นเวลา 1 เดือน และเมื่อครบเวลาดังกล่าว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทจนกว่าบริษัทจะดําเนินการให้เหตุแห่งการเพิกถอนหมดไปและดําเนินการให้บริษัทมีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ
4.ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะให้ระยะเวลาบริษัทฯ ในการแก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไปภายใน 3 ปี นับแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2564 ซึ่งกําหนดเป็น 3 ระยะ โดยแต่ละระยะมีเวลา 1 ปี (NC ระยะที่ 1 NC ระยะที่ 2 และ NC ระยะที่ 3) บริษัทฯ ชี้แจงว่า คณะกรรมการบริษัทจะดําเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอน โดยบริษัทฯ มีแผนการดําเนินกิจการเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน พร้อมปรับโครงสร้างคณะบริหาร และคณะกรรมการ ตลอดจนคณะที่ปรึกษางานหลายฝ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเสียหายแก่ทั้งผู้ถือหุ้นรายใหญ่และรายย่อย ตลอดจนคู่ค้าทางธุรกิจภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อทําให้บริษัทฯ มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้หลักทรัพย์ของบริษัทฯ สามารถกลับทําการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โดยปกติในเร็ววัน
โดยมีแผนงานดังนี้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 การปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทฯ เพื่อให้ SITTHI เป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ โดยเพิ่มการลงทุนในบริษัท สิทธิอินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (SITTHI) จากเดิมสัดส่วนร้อยละ 40 ของทุนจดทะเบียนและชําระแล้ว เป็นมากกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนและชําระแล้วหรือให้บริษัทฯ มีอํานาจควบคุมเบ็ดเสร็จคาดว่าสามารถรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยผลการดําเนินงาน มีกําไรสุทธิไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท จากการดําเนินงานจากธุรกิจหลัก 1 ปี โดยจะพิจารณาจากงบการเงินประจําปีหรืองบการเงิน 4 ไตรมาส
ล่าสุด SITTHI ให้บริการนายหน้าจัดหาสินค้าอุปโภคบริโภค ตลอดจนสินค้าเกษตรและอื่นๆ เพื่อจําหน่ายใน สปป.ลาว และประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการนําเข้าส่งออกสินค้าระหว่างภูมิภาค บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงทางการค้าร่วม (MOU) ในเดือนสิงหาคม 2564 กับบริษัท เวียงจันทร์โลจิสติกส์พาร์ค จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับสิทธิดําเนินการพัฒนาโครงการท่าเรือบก (Dry Port) และ Vientiane Logistics Park โดยบริษัทฯจะดําเนินธุรกิจหลักเป็นตัวแทนทําการตลาดในประเทศไทยของ Dry port และโครงการ Vientiane Logistics Park ซึ่งเป็นแผนต่อยอดธุรกิจใน สปป.ลาว ซึ่งจะสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ โครงการ Vientiane Logistics Park เป็นโครงการที่รัฐบาล สปป.ลาว ให้การสนับสนุนและเป็นส่วนสําคัญในการผลักดัน สปป.ลาว ให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งระหว่างประเทศไปยังภูมิภาคร่วมกับหลายหน่วยงาน ซึ่งเป็นการค้าระหว่างประเทศที่สําคัญ และผลประโยชน์จะมีถึงเกษตรกรและผู้ประกอบการในทุกภาคส่วนของประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ยื่นคําขอพ้นเหตุเพิกถอนหลักทรัพย์โดยบริษัทฯ มีคุณสมบัติตามเกณฑ์รับหุ้นสามัญของบริษัทเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
สำหรับ SITTHI ประกอบธุรกิจเป็นผู้จัดหาสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อจําหน่ายในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยเกณฑ์คุณสมบัติที่สําคัญของการรับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน มีดังนี้
1.ส่วนของผู้ถือหุ้น งไม่ตํ่ากว่า 50 ล้านบาทปัจจุบันอยู่ที่ 189.80 ล้านบาท อ้างอิงงบการเงินไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ถือว่าผ่านเกณฑ์
2.ทุนชําระแล้วไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทปัจจุบันอยู่ที่ 238.63 ล้านบาท อ้างอิงงบการเงินไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ถือว่าผ่านเกณฑ์
3.การบริหารงาน การกํากับดูแลกิจการและการควบคุมภายในนั้น บริษัทฯ ดําเนินการส่งกรรมการ และ/หรือผู้บริหารในฐานะตัวแทนของบริษัทฯ เข้าไปบริหารจัดการบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลัก และบริหารจัดการบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปีก่อนยื่นคําขอ
รวมทั้งดําเนินการจัดทํานโยบาย และระบบควบคุมภายใน โดยผู้บริหารและผู้มีอํานาจควบคุมไม่เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศของสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ คณะกรรมการและฝ่ายจัดการของบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงฐานะการเงิน ผลการดําเนินงานและคุณสมบัติการดํารงสถานะของบริษัทจดทะเบียนเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กําหนด โดยเน้นนโยบายการบริหารงานด้วยความโปร่งใส มีจริยธรรม และธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นทุกราย ทั้งนี้บริษัทฯ จะแจ้งความคืบหน้าเป็นลําดับต่อไป