นายทัตซึยะ โคโนชิตะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (GL) (บริษัทฯ) เปิดเผยว่า “คณะกรรมการของบริษัทฯ ตัดสินใจที่จะไม่เพิ่มเงินทุนในบริษัท PT Group Lease Finance Indonesia (GLFI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่ตั้งอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย และ GLFI จะหยุดการปล่อยเงินกู้รายใหม่ โดยจะเรียกเก็บเงินที่ได้ปล่อยกู้ไปแล้วจากลูกค้าของ GLFI เท่านั้น หน่วยงานทางด้านการเงินของประเทศอินโดนีเซีย (OJK) ได้กำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ถือหุ้นปัจจุบัน จำนวน 3 ราย (Group Lease Holdings Pte. Ltd. (GLH), J Trust Asia Pte. Ltd. (JTA) และ PT Wijaya Infrastructure Indonesia) ทำการเพิ่มเงินทุนเพิ่มเติมใน GLFI เป็นจำนวนเงินประมาณ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 98 ล้านบาท แต่ JTA ปฏิเสธที่จะเพิ่มเงินทุนดังกล่าว
ทั้งนี้ JTA ไม่เพียงแต่ปฏิเสธการเพิ่มทุนเท่านั้น แต่ JTA ยังได้ขอให้ศาลสูงแห่งประเทศสิงคโปร์มีคำสั่งห้าม GLH โอนย้ายทรัพย์สิน เป็นเหตุให้ GLH ไม่สามารถเพิ่มทุนได้ด้วยตนเองได้อันเนื่องมาจากคำสั่งดังกล่าว หากบริษัทฯ พิจารณาที่จะเพิ่มเงินทุนดังกล่าวด้วยตนเอง จะมีการบังคับใช้ข้อกำหนดใหม่ด้านเงินทุนขั้นต่ำกับ GLFI โดยข้อกำหนดใหม่ด้านเงินทุนนั้น ใช้บังคับกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการเงินทุกแห่งในประเทศอินโดนีเซีย และเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด บริษัทฯ จะต้องเพิ่มเงินทุนใหม่ใน GLFI ประมาณ 11 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 361 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา (โควิด-19) และมีการฟ้องร้องของ JTA ต่อกลุ่มบริษัท ในเขตอำนาจศาลต่างๆ และยังมีคำสั่งในประเทศสิงคโปร์ที่ห้ามโอนย้ายทรัพย์สินของ GLH ที่มีสาเหตุมาจาก JTA บริษัทฯ จึงตัดสินใจที่จะไม่ลงทุนเพิ่มใน GLFI ในขณะนี้
"บริษัทฯ รู้สึกผิดหวังที่ JTA ขัดขวางไม่ให้ GLH ลงทุนใน GLFI ซึ่งจะทำให้ GLFI ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านเงินทุนของ OJK ได้ และทำให้ GLFI ไม่สามารถออกเงินกู้ใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม GLFI จะยังคงเรียกเก็บเงินจากพอร์ตทมีอยู่ บริษัทฯ กำลังตรวจสอบกับที่ปรึกษากฎหมายเพื่อพิจารณาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดกับ GLH, GLFI และบริษัทฯ อันเนื่องมาจากการกระทำของ JTA และบริษัทฯ จะต่อสู้เพื่อผู้ถือหุ้นของเราและปกป้องธุรกิจของบริษัทฯ ต่อไป"
ทั้งนี้ JTA ไม่เพียงแต่ปฏิเสธการเพิ่มทุนเท่านั้น แต่ JTA ยังได้ขอให้ศาลสูงแห่งประเทศสิงคโปร์มีคำสั่งห้าม GLH โอนย้ายทรัพย์สิน เป็นเหตุให้ GLH ไม่สามารถเพิ่มทุนได้ด้วยตนเองได้อันเนื่องมาจากคำสั่งดังกล่าว หากบริษัทฯ พิจารณาที่จะเพิ่มเงินทุนดังกล่าวด้วยตนเอง จะมีการบังคับใช้ข้อกำหนดใหม่ด้านเงินทุนขั้นต่ำกับ GLFI โดยข้อกำหนดใหม่ด้านเงินทุนนั้น ใช้บังคับกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการเงินทุกแห่งในประเทศอินโดนีเซีย และเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด บริษัทฯ จะต้องเพิ่มเงินทุนใหม่ใน GLFI ประมาณ 11 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 361 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา (โควิด-19) และมีการฟ้องร้องของ JTA ต่อกลุ่มบริษัท ในเขตอำนาจศาลต่างๆ และยังมีคำสั่งในประเทศสิงคโปร์ที่ห้ามโอนย้ายทรัพย์สินของ GLH ที่มีสาเหตุมาจาก JTA บริษัทฯ จึงตัดสินใจที่จะไม่ลงทุนเพิ่มใน GLFI ในขณะนี้
"บริษัทฯ รู้สึกผิดหวังที่ JTA ขัดขวางไม่ให้ GLH ลงทุนใน GLFI ซึ่งจะทำให้ GLFI ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านเงินทุนของ OJK ได้ และทำให้ GLFI ไม่สามารถออกเงินกู้ใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม GLFI จะยังคงเรียกเก็บเงินจากพอร์ตทมีอยู่ บริษัทฯ กำลังตรวจสอบกับที่ปรึกษากฎหมายเพื่อพิจารณาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดกับ GLH, GLFI และบริษัทฯ อันเนื่องมาจากการกระทำของ JTA และบริษัทฯ จะต่อสู้เพื่อผู้ถือหุ้นของเราและปกป้องธุรกิจของบริษัทฯ ต่อไป"